เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 24 พฤศจิกายน 2563 ที่ปากทางเข้าหมู่บ้านสมหวัง ใกล้สถานีน้ำมัน ปตท. ต.สันกำแพง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ นายพิชัยเลิศพงศ์อดิศร หรือ ส.ว.ก๊อง อดีต ส.ว.เชียงใหม่ ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงใหม่ หมายเลข 1 กลุ่มเพื่อไทยเชียงใหม่ ได้นำผู้สมัครส.อบจ. 42 เขต กลุ่มเพื่อไทยเชียงใหม่ ปราศรัยหาเสียงบ้านเกิดนายทักษิณชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี สองพี่น้อง โดยมีนายบุญธรรม บุญหมื่น อดีต ส.อบจ.อ.สารภี เป็นโฆษก ก่อนนายนาวิน สินธุสอาด อดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ทีมบริหาร นายพิชัย ขึ้นเวทีปราศรัย เป็นคนแรก โดยย้ำให้เลือกผู้สมัครนายก และ ส.อบจ.กลุ่มเพื่อไทยเชียงใหม่ ทุกเขต เพื่อให้คนแดนไกลมีความสุข ท่ามกลางผู้สนับสนุนและกองเชียร์กว่า 5,000 คน
ต่อมาเวลา 17.50 น. นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ถึงเวทีปราศรัย พร้อมกับนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สมัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี นายวรชัย เหมะ และนายพร้อมพงศ์นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย เพื่อช่วยนายพิชัย หาเสียง จากนั้นนายวรชัย ขึ้นเวทีปราศรัย ว่า อ.สันกำแพง เป็นบ้านเกิดนายทักษิณ น.ส.ยิ่งลักษณ์สองพี่สอง อดีตนายกรัฐมนตรี เลือกตั้งครั้งนี้ถือว่าสำคัญ เพื่อไทย แพ้เลือกตั้งอบจ. ไม่ได้ เพราะไม่ได้ต่อสู้กับคู่แข่งขันเท่านั้น แต่ต่อสู้กับอำนาจเผด็จการ ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และเครือข่ายกุมอำนาจอยู่ ถ้าเชียงใหม่แพ้เลือกตั้ง ส่งผลต่อการจัดตั้งรัฐบาลของเพื่อไทยในอนาคตอ่อนแรง เพราะฐานเสียงไปอยู่ฝั่งสืบทอดอำนาจหมด ทำให้เสียโอกาสอย่างมาก

กระทั่งเวลา 18.30 น. นายกิตติรัตน์ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และทีมเศรษฐกิจพรรค ขึ้นเวทีปราศรัย โดยระบุว่า ช่วง 7 ปี หลังทำรัฐประหารยึดอำนาจจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่มีอะไรที่พัฒนาประเทศไปข้างหน้า เศรษฐกิจส่วนใหญ่หยุดนิ่ง สะท้อนความสามารถรัฐบาลว่าเป็นอย่างไร ดังนั้นเพื่อไทยจึงสนับสนับส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง อบจ. ทั่วประเทศ เพื่อเชื่อมนโยบายระดับชาติกับท้องถิ่น เป็นไปในทิศทางเดียวกัน พร้อมส่งเสริมภูมิภาคและภาคเอกชน ให้มีศักยภาพแข่งขัน และฟื้นตัวเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวจากภาวะโควิด เพื่อให้เศรษฐกิจกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
โดยเร็ว
จากนั้น เวลา 19.00 น. นายพงศ์เทพ ขึ้นเวทีปราศรัย ว่า เชียงใหม่มีความสำคัญเป็นเมืองหลวงเพื่อไทย และ อบจ.ถือเป็นองค์กรท้องถิ่น ที่ใกล้ชิดประชาชน ถ้าเลือกผู้สมัครเพื่อไทย ถือเป็นตัวแทนทำงานแทนพรรค ดังนั้นต้องเลือกนายพิชัย หรือ ส.ว.ก๊อง หมายเลข 1และลูกทีมทุกเขต เพราะอบจ.มีงบประมาณ 2,000 ล้านบาท แต่ถ้าตัดออกพัฒนา 25 อำเภอ เพียง 40 % เป็นเงิน 800 ล้านบาท ทำให้ได้รับงบพัฒนาเฉลี่ยเขตละ 20 ล้านบาท/ปี เพื่อกระจายการพัฒนาอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม ตอบสนองความต้องการประชาชนได้มากที่สุด
เวลา 19.45 น. นายพิชัย ปราศรัยเป็นคนสุดท้าย โดยกล่าวว่า ข้อเสนอนายพงศ์เทพเป็นข้อเสนอที่ดี หากมีโอกาสเข้าไปทำหน้าที่เป็นนายก อบจ.พร้อมรับพิจารณา ก่อนนายพงศ์เทพ และนายกิตติรัตน์ ชูมือและชูนิ้วหมายเลข 1 จากนั้นนายพิชัย ได้กระโดดลงเวทีไปพบปะกับผู้ฟังปราศรัย และกองเชียร์ ที่นำพวงมาลัย และดอกไม้มาให้กำลังใจ เพื่อปิดการปราศรัย ในเวลา20.00 น. โดยใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง
ทีมข่าว Talknews online รายงาน
มีคลิปประกอบข่าว
Discussion about this post