สุดเวทนา ภรรยาพาสามีตามคดีหลังถูกรถชนจนพิการตาบอดหนึ่งข้าง สมองพิการผ่านไป 8 เดือนคดีไม่คืบ

วันที่ 5 ก.ย.ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก น.ส.บังอร ภูถมเงิน อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 168/13 ม.3 ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง กรณีเกิดอุบัติเหตุถูกรถยนต์ข้ามเลนมาชนจนสามีสมองพิการ ตาบอด เดินไม่ได้ ผ่านมา 8 เดือน คดีไม่คืบหน้า คู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิด ไม่เคยมาดูแลกันเลยแม้แต่ครั้งเดียว จึงมาขอความเป็นธรรม

น.ส.บังอร ได้ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 26 ม.ค.64 ตนเองนั่งรถยนต์ กระบะ แคป สีแดง ทะเบียน ผ-7120 ระยอง มากับสามี โดยสามีเป็นคนขับ ขณะที่กำลังขับรถยนต์มุ่งหน้ากลับบ้าน พอขับมาถึงหน้าตลาดสุรชัย ถ.สุขุมวิท ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง จู่ๆ รถยนต์นิสสัน มาร์ช สีชมพู ทะเบียน กบ-3109 จันทบุรี ที่ขับมาจากฝั่งตรงข้ามได้เสียหลักข้ามเลนจากอีกฝั่งพุ่งมาชนเต็มแรง ตรงฝั่งคนขับพังทั้งแถบจนเป็นเหตุให้สามีได้รับบาดเจ็บสาหัส ตนเองได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนคู่กรณีได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย โดยมี ร.ต.อ.เสฏฐวุฒิ สุทธิสัฒน์มงคล ร้อยเวร สภ.เมืองระยอง เป็นเจ้าของคดี โดยสามีเข้ารับการรักษาประมาณ 3 เดือน

ปรากฎว่า สามีกลายเป็นคนพิการเดินไม่ได้ ตาซ้ายบอด แพทย์แจ้งว่า ก้านสมองขาดเลือด กระโหลกแตกยุบ เป็นเหตุให้เดินไม่ได้ ต้องรอการฟื้นฟู ต้องใส่แพมเพิสตลอด เพราะไม่สามารถขับถ่ายได้เอง ตลอดระยะเวลา 8 เดือน คู่กรณีไม่เคยมาดูและมาเยี่ยมเลยแม้แต่ครั้งเดียว ต้องต่ายค่ารักษาเองทั้งหมด ส่วนเรื่องคดีได้เดินทางเข้าไปติดตามคดีกับ ร.ต.ท.เสฏฐวุฒิทุกสัปดาห์ เมื่อสอบถามความคืบหน้าคดีกลับได้รับคำตอบว่า ให้ไปฟ้องเองเลยถ้ารีบ โดยตนเองไม่รู้จะทำอย่างไร ไม่มีความรู้ ไม่มีเงิน เพราะต้องออกมาจากงานทั้งสองคน ทุกวันนี้ต้องกู้เงินมาใช้จ่ายในการรักษาตัว และ ค่าซื้อแพมเพิสที่ต้องใช้ทุกวัน รวมถึงค่าเลี้ยงดูบุตรชาย 2 คน อายุ 7 ขวบ กับ 11 ขวบ ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครแล้ว ติดต่อไปทางคู่กรณี อ้อนวอนให้ช่วยเหลือ ทางคู่กรณีอ้างว่าไม่มีเงิน จึงมาขอความเป็นธรรม

ต่อมา น.ส.บังอร ได้พาสามี โดยขี่รถ จยย.พ่วงข้างมายัง สภ.เมืองระยอง เพื่อพบร้อยเวรเจ้าของคดี แต่ปรากฎว่าไม่อยู่ เพราะอยู่ระหว่างการกักตัวโควิด-19 ต่อมาได้พบกับ พ.ต.ท.ภฤกษ์ ภาสว่าง รองผกก.ป.สภ.เมือง ระยอง หลังจากทราบเรื่อง ได้รับปากว่าจะช่วยติดตามคดีและให้ความเป็นธรรมอย่างแน่นอน พร้อมทั้งมอบเงินช่วยเหลือค่าเดินทางจำนวนหนึ่งให้.