เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2564 นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน พร้อมด้วย ดร.จอมขวัญ กลับบ้านเกาะ ส.ส.
สมุทรสาคร เขต3,นายบุญชู นิลถนอม นายกเทศมนตรีนครอ้อมน้อยและคณะ,นายปิยะ ลืออุติกุลวงศ์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาภาษีเจริญ และนายสากล ชลคีรี ชลประทานจังหวัดสมุทรสาคร ได้ลงพื้นที่ตรวจดูแนวการทรุดตัวของเขื่อนป้องกันทะลายของดินริมฝั่งคลองอ้อมน้อย บริเวณประตูระบายน้ำอ้อมน้อย เพื่อหาทางแก้ไขเป็นการเร่งด่วน เตรียมพร้อมรองรับกับการระบายน้ำบนถนนเพชรเกษม ถนนเศรษฐกิจ และชุมชนที่มีสภาพเป็นแอ่งกะทะ ในช่วงที่ฝนตกหนัก
สำหรับการทรุดตัวที่พบตลอดแนวเขื่อนนั้นมีอยู่ด้วยกัน 3 จุด จุดละประมาณ 20 เมตร จุดที่ทรุดหนักก็จะอยู่ใกล้กับประตูระบายน้ำอ้อมน้อย ที่แนวเขื่อนจมลงไปในน้ำประมาณ 3ใน4 ส่วนยาวประมาณ 20 เมตร ส่วนจุดอื่นๆนั้นก็ทรุดในลักษณะที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งทางนายกเทศมนตรีนครอ้อมน้อยหวั่นว่าถ้าหากทิ้งไว้ ปัญหาอาจบานปลายและส่งผกระทบต่อตัวประตูระบายน้ำ จึงได้ส่งเรื่องให้ทาง ส.ส.จอมขวัญ กลับบ้านเกาะ หาแนวทางในการแก้ไข จากนั้น ทางส.ส.จอมขวัญ จึงส่งเรื่องไปยังนายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เพื่อให้ช่วยหาแนวทางในการซ่อมแซมในครั้งนี้

นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน ได้ชี้แจงหลังจากการดูพื้นที่ เห็นว่า การทรุดตัวของแนวเขื่อน อันดับแรกต้องแก้ไขแบบเร่งด่วนก่อน เพื่อไม่ให้การทรุดตัวลุกลามไปตลอดทั้งเขื่อน เพราะจุดที่ทรุดใกล้กลับตัวประตูระบายน้ำมาก เพราะพังมากกว่านี้จะเป็นปัญหาที่หนัก และเนื่องจากตอนนี้เป็นช่วงน้ำหลาก จึงต้องเร่งแก้ไขเพื่อให้ทันต่อการระบายน้ำ และต้องให้ทางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาภาษีเจริญ และ ชลประทาน คอยรักษาระดับน้ำให้มีความพอเหมาะเพื่อป้องกันตลิ่งทรุดตัวด้วย ส่วนการแก้ไขในระยะยาวนั้นต้องให้ทางพื้นที่สำรวจว่าเขื่อนนี้มีความเสียหายมากน้อยแค่ไหน เพราะเป็นเขื่อนที่มีอายุการใช้งานที่ค่อนข้างยาวนาน
ทางด้านนายบุญชู นิลถนอม นายกเทศมนตรีนครอ้อมน้อย กล่าวว่า การแก้ปัญหาระยะสั้น ทางเทศบาลนครอ้อมน้อยก็จะเร่งแก้ไขตามที่ ทางอธิบกรมชลประทานได้ชี้แจง เพราะต้องรักษาการทรุดตัวไม่ให้ขยายวงกว้างและยังสามารถระบายน้ำได้ แต่ส่วนตัวเองแล้วนั้นก็อยากจะทำให้เขื่อนนี้แข็งแรงมากกว่านี้ อยากปรับโครงสร้างใหม่ เพราะเขื่อนนี้ก็ใช้งานมานาน ย่อมมีการผุกร่อนไปตามกาลเวลา ส่วนชั้นดินด้านล่างก็อาจทรุดตัว แต่การทำเขื่อนระยะยาว 4 กิโลเมตรนั้นต้องใช้งบประมาณที่สูงมาก เกินงบประมาณของทางเทศบาลที่จะทำได้ ส่วนเรื่องการขุดลอกคลองนั้น ก็ต้องมีการสำรวจ แต่รับรองว่าหากปริมาณฝนที่ตกมาไม่มากนัก ในพื้นที่จะไม่มีน้ำท่วม แต่ว่าหากได้เขื่อนใหม่ ได้ขุดลอกคลองแบบเต็มรูปแบบ มั่นใจว่าในพื้นที่อ้อมน้อยจะไม่มีน้ำท่วมแน่นอน

ขณะที่ ดร.จอมขวัญ กลับบ้านเกาะ ส.ส.สมุทรสาคร ผู้ที่ช่วยประสานเรื่อง มองว่า ปัญหานี้ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพราะเป็นการทรุดตัวของแนวเขื่อนที่มากพอสมควร และอยู่ในจุดสำคัญของการบริหารจัดการน้ำ บวกกับช่วงนี้เป็นช่วงที่มีฝนตก จึงต้องเตรียมพร้อมสำหรับเรื่องการระบายน้ำจากตอนบนด้วย ซึ่งตนเองก็จะช่วยในเรื่องของการประสานงานอย่างเต็มที่ เพื่อให้ปัญหานี้ได้รับการแก้ไข.
Discussion about this post