
เมื่อวันที่ (8 กันยายน 64) นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานพิธีเปิดการฝึกอบรมการพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านสาธารณภัยและการฝึกการบัญชาการเหตุการณ์ในสถานการณ์วิกฤติ ประจำปี 2564 ของจังหวัดเชียงราย ที่โรงแรมพิมานอินน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย โดยมี พลตรี ศุภฤกษ์ สถาพรผล ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 ฝ่ายเสนาธิการมณฑลทหารบกที่ ๓๗ นายเกรียงศักดิ์ วัยไชยธนวงศ์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย นายอารุณ ปินตา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย หัวหน้าส่วนราชการ ตลอดจนผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จำนวน 50 คน เข้าร่วมรับการฝึกอบรมพร้อมกัน เพื่อกำหนดให้อำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานราชการ เอกชน และประชาชนอาสาสมัคร ได้พัฒนาศักยภาพสามารถจัดทำแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแผนปฏิบัติการและแผนเผชิญเหตุให้สอดคล้องกับแผนสาธารณภัยจังหวัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ เสริมสร้างองค์ความรู้ด้านสาธารณภัยของทุกภาคส่วนให้เกิดกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อนำมาลดจุดอ่อนในเรื่องการบัญชาการเหตุการณ์ การบริหารจัดการสาธารณภัยให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และเพื่อเป็นการแสดงตัวอย่างการจัดทำแผนในสถานการณ์ฉุกเฉิน การจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ การอพยพประชาชนและการบริหารจัดการพื้นที่ให้สมจริงและเกิดประโยชน์สูงสุด
ในการนี้ พันเอก สิงหนาท โลสุยะ รองเสนาธิการมณฑลทหารบกที่ ๓๗ กล่าวว่า การจัดการฝึกอบรมครั้งนี้ เป็นการใช้รูปแบบของการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการระยะเวลา ๓ วัน ระว่างวันที่ 8 – 10 กันยายน 64 นี้โดยเป็นเนื้อหาการบรรยายให้ความรู้เพื่อปูพื้นฐาน โดยนำองค์ความรู้ทางทหารมาเป็นข้อพิจารณาในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อเสริมจุดอ่อนในเรื่องของการจัดตั้ง ศอ.บภ.ทุกระดับพื้นที่และตามระดับความรุนแรงของสถานการณ์ โดยการถอดบทเรียนสถานการณ์ภัยพิบัติในพื้นที่จังหวัดเชียงราย การวิเคราะห์พื้นที่ปฏิบัติการ แผนการป้องกันบรรเทาสาธารณภัยและการแสวงข้อตกลงใจทางทหารซึ่งเป็นกระบวนการจัดทำแผนและคำสั่ง และ การฝึกการบัญชาการเหตุการณ์ในสถานการณ์วิกฤติ (แผ่นดินไหว) ณ โรงแรมพิมานอินน์ โดยกำหนดสถานการณ์แผ่นดินไหวแรงสั่นสะเทือน ขนาด ๗.๐ ส่งผลกระทบ ๙ อำเภอ ฝึกการใช้กลไกการประชุมและสั่งการของศูนย์บัญชาการณ์เหตุการณ์ ให้ได้ผลลัพธ์เรื่องการระบบการแจ้งเตือนภัย การรายงานสถานการณ์ความเสียหาย การค้นหาและกู้ภัย การเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต การอพยพประชาชน การรักษาความสงบเรียบร้อยและการจราจร การจัดการพื้นที่ในศูนย์อพยพ และการแสดงตัวอย่างการปฏิบัติในสถานการณ์วิกฤติในพื้นที่ ศูนย์ ปภ.15 โดยนำผลลัพธ์จากการฝึกวันที่สอง คือแผนต่างๆ มาออกแบบการเคลื่อนย้ายผู้อพยพทางบก การส่งกลับทางอากาศผู้ป่วยวิกฤติ การปฏิบัติงานของศูนย์คัดกรอง การปฏิบัติงานภายในศูนย์บัญชาการเหตุการณ์(แผ่นดินไหว) การรวมพลและจัดการที่พักอาศัย การปฏิบัติการจิตวิทยาโดยวงดุริยางค์ มณฑลทหารบกที่ 37 การอบรมการปฐมพยาบาลในสถานการณ์วิกฤติ เช่น การใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจ (AED) การใช้ชุด PPE และการสรุปผลการฝึกอบรมโดยผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37

ด้าน นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวอีกว่า เป็นความมุ่งหวังที่อยากเห็น การฝึกบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับสาธารณภัย ให้เข้าใจถึงระบบบัญชาการเหตุการณ์ ให้มีประสิทธิภาพในระดับพื้นที่ ให้สามารถตอบโจทย์ต่อสาธารณภัยทุกรูปแบบที่เกิดขึ้น ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย เช่น อุทกภัย วาตภัย ดินโคลนถล่ม แผ่นดินไหว เมื่อปี ๕๗ และล่าสุดคือกรณีการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ๑๓ หมูป่า ที่วนอุทยานถ้ำหลวงนางนอน จากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะเกิดขึ้นในพื้นที่ ไม่มีการเตรียมแผนล่วงหน้า ไม่มีการคาดคะเน เป็นการเรียนรู้จากของจริงล้วนๆ แม้ว่าเป็นเรื่องยากที่จะบริหารจัดการสถานการณ์ ทั้งอุปสรรคจากลมฟ้าอากาศและความสับสน ความไม่เข้ากัน ในการจัดการต่างๆ ซึ่งในกรณีของแผ่นดินไหวก็เช่นเดียวกัน บทเรียนที่ได้รับเมื่อปี ๕๗ แรงสั่นสะเทือนขนาด ๖.๓ ถือว่าสร้างความเสียหายน้อยมากเมื่อเปรียบเทียบกับไทม์ไลน์แผ่นดินไหวทั่วโลก ซึ่งรอยเลื่อนแม่จันยังถือว่าเป็นความเสี่ยงต่อผลกระทบอันเกิดจากความแปรปรวนของโลก อันสืบเนื่องจากภาวะโรคร้อนและปัจจุบันก็มีเรื่องใหม่เข้ามาอีกคือสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า ๒๐๑๙ ที่ผ่านมาถือว่าสถานการณ์ของประเทศไทยจะต้องอยู่ในความพร้อมที่จะรับสถานการณ์ขั้นวิกฤติ และเชียงรายได้รับผลกระทบที่รุนแรงตามมาแต่ยังนับว่าโชคดีที่มาตรการของเราสามารถรองรับสถานการณ์นั้นได้ ทำให้ไม่ขยายวงกว้าง และคาดหมายว่าการได้รับวัคซีนที่ต่อเนื่องจะทำให้จังหวัดเชียงรายและประเทศไทยก้าวผ่านวิกฤตินี้ไปได้ด้วยดี
Discussion about this post