
ผู้สื่อข่าวจังหวัดพัทลุงรายงานข่าวคืบหน้า จากกรณีที่บริษัทสยามเนสท์ 2022 จำกัด ได้ชนะการประมูลการสัมปทานรังนกในครั้งที่ 9 ในราคา 400 ล้านบาท แต่หลังจากทีทางบริษัทร่วมกับคณะทำงานของคณะกรรมการรังนกฯงพื้นที่เก็บรังนกภายในถ้ำต่างๆพบว่ามีร่องรอยการขโมยรังนก อาทิ กองขยะ พบเชือกขนาดต่างๆ การก่อไฟสุมไล่นก พบเสื้อผ้าคนร้าย ฯลฯ ในขณะที่รังนกถูกขโมยแทบเกลี้ยงถ้ำ ในขณะที่นายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร นายก อบจ.พัทลุง ออกมาเรียกร้องให้นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผวจ.พัทลุง ออกมาชี้แจงประชาชนของความเสียหายดังกล่าว ตามข่าวที่เสนอมาแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 ก.ย. ที่ผ่านมา บริษัทมอบหมายให้คนงานประมาณ 60 คน สำรวจ ในถ้ำต่างๆของเกาะรูซิ้ม ยังพบกองขยะ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นจำนวนมาก ส่วนในถ้ำลื่น ก็พบการก่อไฟไล่ฝูงนกเช่นเดียวกับถ้ำอื่นๆ ขณะที่ตรงปากถ้ำรังนกใกล้ถ้ำลื่นบนเกาะรูซิ้ม วันนี้ คนงานที่จัดเก็บรังนกยังเสื่อชูชีพ ที่เป็น เสื่อของ อส.จ.พัทลุง 1 ตัว ตรงปากถ้ำในจุดที่คนร้าย รอขึ้นเรือ ที่มีการแอบไว้ใกล้โขดหินที่ปากถ้ำ คนงานจึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งในวันนี้ ถ้ำลื่น และถ้ำทุ่งเตี้ยใหญ่ ที่เป็นถ้ำขนาดใหญ่ คนงานได้ยุติการเก็บเนื่องจากไม่มีรังนกเหลือให้เก็บแล้ว ทั้งที่ทั้ง2 นั้นปกติคนงานต้องใช้เวลาเก็บไม่ต่ำกว่า 5วัน แต่รอบนี้เก็บได้เพียง 3 วัน
ส่วนในการเก็บตามถ้ำเล็กบนเกาะรูซิ้ม ของคนงานจำนวน 6 ถ้ำในวันนี้ พบว่ามีรังนกอยู่ในถ้ำเพียงน้อยนิด และพบอุปกรณ์ในการเก็บรังนกวางอยู่เป็นจำนวน ส่วนการจัดเก็บรังนกในวันที่ 4 ในหลายๆถ้ำจัดเก็บรังนกขาวได้เพียง 7.12 กก. นกดำได้ 51.00 กก.เท่านั้น
ขณะที่ตัวแทนบริษัท เปิดเผยว่า พฤติกรรมของขบวนการขโมยรังนกพัทลุง นับว่าโหดเหี้ยมมาก การที่จุดกองไฟใช้ควันไล่แม่นก เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงฟักไข่ ทำให้ลูกนกต้องตายไปจำนวนมาก ประมาณการจากรังนกที่มีอยู่ในถ้ำช่วงที่รับมอบเกาะคืนจากผู้รับสัมปทาน ทั้ง 7 ถ้ำที่ถูกขโมยมีรังนกประมาณ 500,000 -600,000 รัง ปกติจะมีลูกนกที่ฟักตัวแล้วในรังๆละ 2ฟอง หรือ 2 ตัว เท่ากับการขโมยครั่งนี้ทำลายลูกน้องไปนับล้านกตัว จึงเป็นเรื่องที่น่าสลดใจเป็นอันมาก การที่ลูกนกตาย เท่ากับการตัดวงจรชีวิตนกไป 1 ปี นก 1 ตัว ภายใน 7 ปี สามารถทำรายได้ไม่ต่ำกว่า 3ล้านบาท ซึ่งลูกนกที่ตายไป 1ล้านกว่าตัว ก็เท่ากับการเข้าไปขโมยรอบนี้สร้างความ ทั้งระบบไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท

ด้านนายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง พรรค ปชป. เผยว่า ตนขอเรียกร้องไปยังรัฐมนตรีกะทรวงมหาดไทยได้เร่งแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนเรื่องเลวร้ายดังกล่าว เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบ ผู้กระทำความผิด ที่ได้ละเลยการปฏิบัติหน้าที่มาลงโทษอย่างเฉียบขาด เนื่องจากการเฝ้ารังนกนั้นมี จนท.เป็นจำนวนมาก ใช้เงินมากกว่า 4.5 ล้านบาท แต่ไมสามารถดูแล รักษา และยับยั้งการขโมยรังนกได้ โดยเฉพาะการสุมไฟในถ้ำรังนกนั้นนับเป็นการกระทำที่เลวร้ายที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในถ้ำรังนกของประเทศไทย เพราะจะทำให้ฝูงนกล้มตาย หนีออกจากรังและต้องใช้เวลา 2-3 ปีที่นกจะบินกลับมา ในขณะที่ลูกนกก็จะล้มตายหลายแสนตัว เรื่องที่เกิดขึ้นทางกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงทรัพยากรฯจะต้องร่วมกันนำคนผิดมาลงโทษให้ได้ และเห็นด้วยหากทางบริษัทฯจะฟ้องร้องเอาผิดกับผู้รับผิดชอบในเรื่องดังกล่าวนี้ และยินดีที่จะให้การสนับสนุนทุกแนวทาง ทั้งนี้ เพื่อมิให้เรื่องเลวร้ายดังกล่าวเกิดขึ้นต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่า ช่วงที่เจ้าหน้าที่ ตำรวจ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อส. และเจ้าหน้าที่ อบจ.พัทลุง เกือบ 100 นาย โดยมีปลัดจังหวัด ป้องกันจังหวัด นายอำเภอปากพะยูน ผกก.สภ.เกาะนางคำ ผอ.สำนักอนุรักษ์ที่ 6 สงขลา หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลหลวง ได้ใช้สำนักงานหน้าถ้ำเทวดาเพื่อเป็นกองบัญชาการรักษาความปลอดภัยในการดูแลเกาะรังนก โดยที่ศูนย์บัญชาการรักษาความปลอดภัย มีเจ้าหน้าที่ประจำการทุกวันไม่ต่อกว่า 20 คน แต่เป็นที่น่าสงสัยอีกว่า บริเวณถ้ำเนียงเคยที่ติดกับสำนักงาน รังนกที่มีอยู่เต็มถ้ำก่อนวันส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ดูแล แต่หลังจากเจ้าหน้าที่ดูแลกลับหายเกลี้ยงเหมือนกับถ้ำอื่นๆเช่นกัน
ทางด้านนายเกลื่อม พูนสง ประธานชมรมพิทักษ์ผลประโยชน์จังหวัดพัทลุง เผยว่า ทางชมรมได้ติดตามการเปิดประมูลรังนกอีแอ่นมาแล้วทั้งแต่ต้น และพบว่าพฤติการณ์ของคณะกรรมการรังนก ทำให้ประชาชนเคลือบแคลงสงสัย ทางชมรมก็ได้ทำหนังสือถึงประธานกรรมการมาแล้วเช่นกัน แต่ก็ไม่ได้เกิดผลอะไร แต่หลังจากนี้จะต้องเดินหน้าตรวจสอบถามกรณีที่รังนกหายและมีการจุดไฟเผาไล่นกภายในถ้ำด้วย
Discussion about this post