
วันนี้ 20 ก.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายแพทย์สงกรานต์ ไหมชุม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโรคไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ส่วนใหญ่เป็นผลพวงมาจากการร่วมกิจกรรมในชุมชนและครอบครัว โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่มีร่างกายแข็งแรง พอเริ่มมีคนมีอาการ ก็จะเข้าไปในโรงพยาบาล ที่เรียกกันว่าคลินิกทางเดินหายใจ เมื่อตรวจแล้ว ก็พบเจอผู้ติดเชื้อรายใหม่ ก็ต้องลงพื้นที่เข้าไปค้นหาที่อยู่ในชุมชน หมู่บ้าน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่ทำให้เจ้าหน้าที่เจอผู้ที่ติดเชื้อยอดรวมเกือบ 500 คน โดยส่วนใหญ่แล้วสาเหตุเกิดจากการติดเชื้อในกิจกรรมร่วมภายในบ้าน ร่วมงานชุมชน ซึ่งในช่วงนี้ ในเรื่องของการสอบสวนโรค ค่อนข้างยากกว่าเดิม เพราะว่าการแยกกิจกรรมค่อนข้างยากกว่าเดิม เพราะในส่วนหนึ่งเกิดจากพัวพันกัน จะเจอในกลุ่มคนที่อายุน้อยลงไปเรื่อยๆซึ่งตอนนี้จะอยู่ที่อายุ 10 – 20 ปี เพราะว่าจะมีกิจกรรมที่ร่วมกันทำกลุ่มเล็กๆ เช่น การเล่นกีฬาด้วยกัน ไปกิจกรรมร่วมกัน รับประทานอาหาร รับประทานเครื่องดื่ม มีเรื่องของการใช้พืชกระท่อมที่เปลี่ยนจากที่เคยเป็นผิดกฎหมาย กลับกลายถูกต้อง ถูกกฏหมาย ก็สามารถที่จะนั่งดื่มร่วมวงกัน

นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา กล่าวอีกว่า สิ่งที่ยังเป็นที่น่ากังวลคือแนวโน้มของผู้ติดเชื้อที่อาจมีมากขึ้นในช่วงของเดือนตุลาคมนี้ เป็นการคาดการณ์จากตัวเลขว่าเดือนตุลาจะมียอดสูงถึง 700 คน โดยได้เอาตัวเลขและสถานการณ์จากกรุงเทพฯมา ซึ่งโดยตามหลักการแล้วยะลาจะตามหลังกรุงเทพประมาณ 1 – 2 เดือนและมีโอกาสเป็นไปได้สูงเพราะจากการที่มีการคลายล็อค ทำให้เห็นว่าประชาชนเริ่มการ์ดตกในเรื่องของการรักษาวินัยในการปฎิบัติตัวเพราะคิดว่าเป็นมาตรการผ่อนคลายและคิดว่าไม่มีอะไรแล้วแต่จริงๆคือยังมีเชื้ออยู่ ดังนั้น ขอให้ประชาชนทุกคนรักษาวินัยในตนเอง ไม่รวมกลุ่มทำกิจกรรมที่อาจเป็นการสุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อ สำหรับการรองรับผู้ป่วยนั้น ทางจังหวัดได้เตรียม Community isolation หรือ ศูนย์พักคอยชุมชนไว้ เพื่อรองรับกลุ่มผู้ป่วยดังกล่าว คาดว่าจะเพียงพอต่อความต้องการของผู้ป่วย อีกทั้งอาจต้องมีการบริหารจัดการเตียงในโรงพยาบาลให้ดี เนื่องจากขณะนี้ต้องเร่งจัดการผู้ป่วยใหม่เข้าระบบให้เร็วที่สุดเพื่อป้องกันไม่ให้แพร่กระจายเชื้อภายในชุมชนต่อไป
Discussion about this post