
ณัฐวัตร ลาพิงค์/เชียงราย
วันที่ 23 กันยายน 2564 ที่ห้องประชุมธรรมลังกา ศาลากลางจังหวัดเชียงราย นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ ปลัดจังหวัดเชียงราย เป็นประธาน โดยมี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด อัยการจังหวัด วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย นางเตือนใจ ดีเทศน์ กรรมการและผู้ก่อตั้งมูลนิธิพัฒนาชุมชนและเขตภูเขา (พชภ.) ประชุมมีการพิจารณากรณีคำขอแปลงสัญชาติเป็นไทยของคนต่างด้าวซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อย (มาตรา10) กรณีผู้ที่ขออายุตั้งแต่ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป จำนวนรวม 50 ราย จาก อ.แม่สรวย และอ.แม่ฟ้าหลวง โดยเป็นการสัมภาษณ์ สังเกตพฤติการณ์ และทดสอบความรู้ภาษาไทย แก่ผู้ยื่นคำขอถือสัญชาติไทยตามสามีของหญิงต่างด้าวซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อย และผู้ยื่นคำขอแปลงสัญชาติเป็นไทยที่มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดเชียงราย ครั้งที่ 3/2564
นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ กล่าวว่าการแปลงสัญชาติมาตรา 10 ที่เข้ารับการสัมภาษณ์ในวันนี้เป็นผู้เฒ่า ซึ่งมีการปรับเกณฑ์ให้สามารถสอบสัมภาษณ์โดยใช้ภาษาถิ่นไทยได้ ตามหนังสือสั่งการของกระทรวงมหาดไทย ลงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2563 ในวันนี้มีทั้งภาษาอาข่าและไทลื้อ โดยให้นายอำเภอนำเสนอข้อมูลของแต่ละราย จะเป็นการสอบที่รวดเร็วขึ้น โดยให้กรรมการทดสอบความรู้ด้านภาษา การพิจารณาแยกเป็นรายบุคคล ซึ่งผู้เฒ่ากลุ่มนี้มีเอกสารที่ทำไว้กับทางราชการ ตั้งแต่ พศ. 2534 และได้มาตั้งรกรากในประเทศไทยก่อนหน้านั้นแล้ว จึงอยู่ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้วนานกว่า 30 ปีทุกราย และผู้เฒ่าชาวไทลื้อจาก อ.แม่สรวย อายุมากสุดถึง 92 ปี ถือใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวเมื่อปี 2537

โดยผู้เฒ่าชาวอาข่าทุกคนที่มาสอบสัฒภาษน์ได้แต่งชุดประจำเผ่าซึ่งประดับด้วยเครื่องเงินงดงาม ทำให้ได้รับความสนใจจากข้าราชการและประชาชนที่เดินทางมายังศาลากลาง ทั้งนี้ในที่ประชุมได้ มีการสอบถามชื่อและข้อมูลส่วนตัวและครอบครัว
นางหมี่เพ้อ เบียวเชกู่ อายุ 64 ปีชาวอาข่าบ้านป่าคาสุขใจ บนดอยแม่สลอง อ.แม่ฟ้าหลวง กล่าวก่อนเข้าสอบสัมภาษณ์ว่า รู้สึกกังวลเรื่องการสอบที่ศาลากลางจังหวัด และตื่นเต้นมากตั้งแต่เมื่อคืนจนนอนไม่หลับและกินข้าวไม่ได้ แต่เมื่อสอบแล้วก็รู้สึกมีความสุขมาก ทั้งชีวิตคือรอคอยโดยอยู่ประเทศไทยมากว่า 40 ปีแล้ว อยากเป็นคนไทยที่ถูกต้อง ได้ถือบัตรประชาชน วันนี้เป็นบันไดขั้นแรกที่จะทำให้ได้เป็นคนไทย ขอบคุณทุกฝ่ายที่เห็นใจ เห็นคุณค่าของผู้เฒ่าไร้สัญชาติ ที่คนทั่วไปไม่สนใจ
หลังจากการสอบสัมภาษณ์ที่จังหวัดแล้ว จะมีการส่งรายชื่อไปยังกรมการปกครอง ประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองสัญชาติ ตามมาตรา 25 พรบ.สัญชาติ ซึ่งมีปลัดกระทรวงมหาดไทย ทำหน้าที่ประธาน หากมีมติเห็นชอบคำร้องขอแปลงสัญชาติของผู้เฒ่าแล้ว ขั้นตอนต่อไปกรมการปกครองจะต้องเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่ออนุมัติและแจ้งไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต่อไป
///////////////////////////////////////////////
Discussion about this post