พายุเตียนหมู่ พ่นพิษ !! ทำถนนเข้าออกหมู่บ้านพังเสียหาย ชาวบ้านพากันปลูกต้นไม้กลางถนน เรียกร้องช่วยแก้ไข

วันที่ 25 ก.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พายุเตียนหมู่ถล่มหลายพื้นที่ของจังหวัดชัยภูมิ เกิดน้ำท่วมฉับพลัน แต่ในขณะที่ บ้านท่าบอนหมู่8 ต.โสกปลาดุก อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ ซึ่งเป็นหมู่บ้าน อยู่ ติดเทือกเขา การสัญจรเข้าออกหมู่บ้านค่อนข้างลำบาด เมื่อเจอพายุฝนกระหน่ำมารุนแรงทำให้ถนน หลายจุดถูกน้ำกัดเซาพังเสียหายสัญจรไปมาสู้โลกภายนอกไม่สะดวกถนนเป็นหลุมบ่อและเป็นโคลนหลายจุดระยะทางกว่า 4 กม. ได้รับความเดือดร้อนหนักชาวบ้าน จึงพากันรวมตัวนำต้นกล้วย อ้อยและต้นมันสำปะหลัง มาปลูกที่กลางถนนในบริเวณที่เสียหายมากๆประชดใส่ หาหน่วยงานรับผิดชอบ

ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านท่าบอน ต.โสกปลาดุก อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ ว่าได้รับความเดือดร้อนจากถนนชำรุดพังเสียหายเป็นหลุมเป็นบ่อจำนวนมาก ตั้งแต่เขตพื้นที่หมู่บ้านท่าบอน หมู่8 ต.โสกปลาดุก อ.หนองบัวระเหว – ไปบ้านเทพนิมิต ต.นายางกลัก อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ และข้ามไปยังบ้านกระจวนหมู่ 4 ต.โคกสะอาด อ.หนองบัวระเหว ระยะทางกว่า 4 กม.ชาวบ้านที่ใช้รถใช้ถนนผ่านไปมาได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักและเกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้ง มิหนำซ้ำคอสะพานข้ามลำห้วยลำเชียงทาที่เชื่อมต่อระหว่างบ้านท่าบอนกับบ้านเทพนิมิต ไปยังบ้านกระจวน หมู่ 4 ต.โคกสะอาด ยังเกิดการทรุดตัวอีกด้วย ทำให้ชาวบ้านสัญจรออกสู่ตลาดได้ไม่สะดวกโดย เส้นทางทั้งสองเส้น ถนนพังเสียหายทั้งหมดรถยนต์ทั่วไปไม่สามารถวิ่งได้
ดังนั้นชาวบ้านจึงได้รวมกันนำต้นกล้วยอ้อย มันสำประหลังมาปลูกกลางถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อหรือพังเสียหาย เพื่อเรียกร้องให้หน่วยงานที่รับผิดช่วยมาแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้านในครั้งนี้ด้วย

ซึ่งถนนสายนี้ สามารถ เชื่อมต่อไปหามาหากันได้หลายหมู่บ้าน ชาวบ้าน ต้องขนสินค้าทางการเกษตรออกสู่ตลาด โดยเฉพาะระยะนี้ชาวบ้านประสพปัญหามันเน่าจึงต้องเร่งทำการเก็บกู้ ก่อนกำหนด แต่เมื่อถนนพังเสียหายเช่นนี้ ชาวบ้านจะสัญจรไปมาได้อย่างไร ออกตลาดที ต้องใช้รถไถมาช่วยดึงตลอด ดูจากสภาพถนนแล้วหากมีคนป่วยที่จะต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลกระทันหันจะทำอย่างไรจะไม่เสียชีวิตคาถนนเช่นนั้นเลยหรือไร ฝากถึงหน่วยงานที่รับชอบออกมาช่วยเหลือหรือแก้ไขปัญหาให้ชาวบ้านด้วย

ด้านนางวิลัย นันใจนา อายุ 55 ปี บ้านเลขที่ 5 หมู่ 8 บ้านท่าบอน ต.โสกปลาดุก อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ พร้อมด้วย น.ส. พรสุดา ปุมไชยสงค์ อายุ 29 ปี ชาวบ้านท่าบอน กล่าวว่า ถนนสายดังกล่าว พังเสียหายเช่นนี้ทุกปี ครั้นเมื่อถึงหน้าฝน ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ ก็จะไปไหนมาไหนลำบากเช่นนี้หน้าแล้งก็ฝุ่นเยอะ จึงอยากวอนให้ผู้ที่รับผิดชอบช่วยมาแก้ไขให้ดีๆกว่านี้ด้วยไม่ใช่ว่าจะเห็นหน้าเฉพาะเวลาหาเสียง เมื่อเป็นแล้วก็เงียบหายเป็นหมู่บ้านที่ถูกเมินแบบนี้ จึงฝากถึงผู้รับผิดชอบเร่งแก้ไขเพราะหากเด็กๆเปิดเรียนมันเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติกับเด็กนักเรียนและชาวบ้านที่สัญจรไปมาได้.