เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2564 ที่วัดประชานิยม เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ เนื่องในวันพระใหญ่ยังพบว่า พุทธศาสนิกชน ยังคงทยอยเดินทางมาทำบุญตักบาตรข้าวสาร อาหารแห้ง ตามปกติ มี เจ้าคุณบัวศรี เจ้าอาวาสวัดประชานิยม อดีต เจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ “ธ” ลงปฏิบัติกิจของสงฆ์ตามปกติ ท่ามกลางบรรยากาศที่ดีขึ้นเนื่องจากบรรดาศิษย์เห็นรอยยิ้มของเจ้าคุณบัวศรี และได้รับฟังการเทศนาในช่วงวันพระที่ หลวงปู่เจ้าคุณบัวศรี ไม่ได้เอ่ยถึงปัญหาการถอดถอนแต่อย่างใด แต่ได้พูดถึงแนวทางการปฏิบัติตนให้ดำรงอยู่ในพุทธศาสนาและวิธีการทำกรรมฐานในสายพระป่า
รายงานแจ้งว่า ขณะนี้การลงทะเบียนเพื่อคัดค้นมติ มส. ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง และยอดการลงทะเบียนก็เพิ่มขึ้นเรื่อยเพราะมีระบบออนไลน์ ขณะที่มีรายงานความเคลื่อนไหวของ พระครูสุทธิญาณโสภณ หรือ เล็ก สุทธิญาโณ เจ้าคณะอำเภอสังคม จ.หนองคาย ว่าที่เจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์(ธ) คนใหม่ ว่าขณะนี้มีวัดป่าสายธรรมยุติอย่างน้อย 2 แห่ง จะหลีกทางเข้า พระครูเล็ก มาเป็นเจ้าอาวาส ตามกฏระเบียบของ มส. ที่การเป็นพระสังฆาธิการจะต้องเป็นเจ้าอาวาสก่อน โดยวันที่ว่า แห่งที่ 1 อยู่ในเขตอำเภอหนองกุงศรี คือ วัดป่ากุงศรีเจริญธรรม ต.หนองกุงศรี อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ และ แห่งที่ 2 คือ วัดป่ามัชฌิมาวาส หรือวัดป่าดงเมือง ต.ลำพาน อ.เมืองกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์ ที่มีปัญหาพระผู้ใหญ่ต้องคดีเสพเมถุน ซึ่งทั้งสองวัดนี้ พระเล็ก นับถือเป็นครูอาจารย์ผู้ใหญ่ ที่ทำให้เกิดกระแสการวิจารณ์ไปต่างๆนานา
ส่วนความเคลื่อนไหวของศิษยานุศิษย์นั้น ดร.กฤตชญา วิเชียรเพริศ ลูกศิษย์หลวงตาบัวศรี กล่าวว่า การทำบุญในวันพระใหญ่วันนี้ ศิษยานุศิษย์และชาวพุทธที่เลื่อมใสศรัทธา หลวงตาเจ้าคุณบัวศรี ทุกคน รู้สึกสบายใจ เพราะได้เห็นรอยยิ้มและได้รับฟังธรรมจากการเทศนาของท่านหลวงตาบัวศรี และในหลายคนก็แอบร้องไห้เพราะรู้สึกสงสาร แต่ในกลุ่มลูกศิษย์ก็คุยกันว่า ต่อไปคงจะเป็นเรื่องการติดตามผลของ คณะกรรมาธิการศาสนา และ คณะกรรมาธิการกฏหมาย สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งทราบว่ากำลังดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง
“เรื่องนี้คงจะไม่มีอะไรมา แต่ต้องการให้ มหาเถรสมาคม และสำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ลงมาพิสูจน์ความจริง เพราะถึงแม้ รัฐมนตรีหรือนักวิจารณ์ข่าวได้ออกมาอธิบายในเรื่องนี้ ก็ไม่ทำให้ความรู้สึกของศิษย์ดีขึ้น หรือจะยุติเรื่องแต่อย่างใด เพราะระบบการปกครองเมื่อ พส.อ้างว่าเป็นการปกครองในส่วนของพระสงฆ์ เมื่อมีการปลดก็ต้องมีคำชี้แจงว่า หลวงตาเจ้าคุณบัวศรี ผิดอะไร แต่เมื่อถอดถอนโดยไม่มีการพิสูจน์ แต่รายงานข่าวว่า ท่านเจ้าคุณบัวศรีละเว้น การลงโทษพระผู้ใหญ่ที่ถูกร้องว่าเสพเมถุนนั้น ยิ่งต้องให้ มีการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง แต่กลับอ้างแต่ว่าเป็นเรื่องของสงฆ์”
ดร.กฤตชญา กล่าวต่อว่า ตนต้องการบอกว่าถึงแม้จะอธิบายว่าเป็นเรื่องของสงฆ์ แต่มตินี้ คนกาฬสินธุ์เชื่อว่ามีการสอดไส้ แล้ว จะทำอย่างไรต่อศรัทธา เพราะหากว่าอนาคตมีการส่ง พระเล็กมา แน่นอนว่าในสายคณะสงฆ์คงจะมีการเคลื่อนไหว ดังนั้นเมื่อรู้ทั้งรู้ว่าอะไรควรไม่ควรก็ต้องแก้ไขก่อนที่จะบานปลายเพราะแน่ๆว่าปัญหานี้เป็นการทำลายศรัทธาของประชาชนต่อบทบาทของ มหาเถรสมาคมและสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ.
Discussion about this post