ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากลุ่มเสรีภาพแม่น้ำโขงและภาคประชาสังคมได้ส่งจดหมายเปิดผนึกถึง อธิบดีกรมประมง เพื่อขอให้ทบทวนการรับเงินสนับสนุนจากเอกชนแห่งหนึ่งหลังกรมประมงชี้แจงกรณีเสนอแผนงบประมาณกว่า 261 ล้านบาทเพื่อฟื้นฟูแม่น้ำโขง
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2564 กรมประมงได้ส่งหนังสือตอบกลับนายสุวิทย์ กุหลาบวงษ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนลุ่มน้ำโขงอีสาน โดยระบุว่า กรมประมงได้เสนอโครงการเพื่อขอรับงบประมาณสนับสนุนจาก เอกชนแห่งหนึ่งเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2564 จำนวน 261,740,190 บาท เพื่อการจัดทำโครงการ “การจัดการทรัพยากรประมงในแม่น้ำโขงและแม่น้ำสาขาในประเทศไทย” ประกอบด้วย 2 แผนงาน ได้แก่ 1. แผนงานเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรสัตว์น้ำและความหลากหลายทางชีวภาพ 2. แผนงานบูรณาการและสนับสนุนการมีส่วนร่วมและการสร้างเครือข่ายเพื่อให้เกิดการบริหารจัดการประมงน้ำจืด
เนื้อหาในจดหมายเปิดผนึกดังกล่าว เรียกร้องและตั้งคำถามต่อหน้าที่โดยตรงของกรมประมง ดังนี้ 1. กรมประมงในฐานะเป็นหน่วยงานราชการ การรับเงินสนับสนุนจากบริษัทเอกชนเช่นนี้นั้น อาจจะกลายเป็นการนำเอาศักดิ์ศรีสถาบันของกรมประมงไปช่วยประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างภาพลักษณ์แก่บริษัทเอกชน และอาจจะตกเป็นเครื่องมือสร้างความชอบธรรม ให้แก่บริษัทเอกชน 2. การรับเงินนอกงบประมาณแผ่นดินในลักษณะนี้ กรมประมงจะถูกตั้งคำถามต่อหลักธรรมาภิบาลขององค์กร หรือการมีส่วนร่วมกับประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างทั่วถึงใน 7 จังหวัดแม่น้ำโขง อีกทั้ง ยังไม่ตั้งอยู่บนงานวิจัยของกรมประมงแต่อย่างใด การรับเงินสนับสนุนดังกล่าวอาจจะถูกตั้งคำถามถึงความชอบด้วยกฎหมายของการรับเงินสนับสนุนจากภาคเอกชนได้
“พวกเราจึงขอเรียกร้องให้กรมประมงทบทวนการรับเงินสนับสนุน จากบริษัทที่ได้ชื่อว่า เป็นผู้ดำเนินโครงการเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี และบริษัทเอกชนอื่น ๆ ในลักษณะเดียวกันนี้ในอนาคต”ในจดหมายระบุ
นายมนตรี จันทวงศ์ ผู้ประสานงานกลุ่มเสรีภาพแม่น้ำโขง (The Mekong Butterfly)กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงทางนิเวศวิทยาของแม่น้ำโขง เกิดขึ้นทันทีในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2562 – เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 ด้วยปรากฏการณ์น้ำโขงใสไร้ตะกอน การระบาดของสาหร่ายในแม่น้ำโขง และระดับน้ำโขงที่ผันผวนผิดฤดูกาล ซึ่งตรวจวัดที่สถานีวัดระดับน้ำโขงเชียงคานได้อย่างชัดเจน ปรากฏการณ์ดังกล่าวนี้เกิดขึ้นซ้ำอีกครั้งในช่วงเวลาเดียวกันของปี พ.ศ.2563-2564 และผลสืบเนื่องจากน้ำโขงใสไร้ตะกอนนี้ ยังทำให้เกิดการดำน้ำยิงปลาในวังปลาต่าง ๆ ส่งผลกระทบต่อปลาขนาดใหญ่ซึ่งเป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ปลาในแม่น้ำโขงเป็นจำนวนมาก ปรากฏการณ์น้ำโขงใสไร้ตะกอน ทำให้เกิดข้อถกเถียงและข้อสังเกตในทางวิชาการอย่างต่อเนื่อง ต่อผลกระทบต่อเนื่องในระบบนิเวศแม่น้ำโขงและความสมบูรณ์ของทรัพยากรการประมง รวมถึงความเชื่อมโยงกับการเปิดใช้งานเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี เนื่องจากเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
นายมนตรีกล่าวว่า เหตุนี้เอง กรมประมงในฐานะหน่วยงานที่มีพันธกิจในการบริหารจัดการด้านการประมงและการอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำ ให้เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องดำเนินการศึกษาวิจัยเพื่อให้ได้ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่สมบูรณ์ที่สุด เพื่อวิเคราะห์หาขอบเขตและความรุนแรงของผลกระทบทั้งโดยทางตรงและทางอ้อม ที่เกิดขึ้นจากน้ำโขงใสไร้ตะกอนและระดับน้ำโขงผันผวน รวมถึงการวิเคราะห์ว่าปรากฏการณ์ดังกล่าวนี้ มีความเกี่ยวข้องกับเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรีหรือไม่ อย่างไร ซึ่งในปัจจุบันกรมประมงยังไม่ได้ทำการศึกษาใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับความเปลี่ยนแปลงของนิเวศแม่น้ำโขงนี้ ที่จะช่วยสร้างแนวทางที่ชัดเจนสำหรับกรมประมง ในการวางแผนงานและการออกนโยบายแต่อย่างใด
Discussion about this post