สนามเลือกตั้งนายกและส.อบต. ตำบลไทรย้อย อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ ทางกลุ่มเกษตรกรอินทรีย์ มองการเลือกตั้งที่นักการเมืองยังไม่ปรับพฤติกรรม การบริหารและวิธีการได้มาซึ่งชัยชนะในการเลือกตั้ง ทำให้การพัฒนายังล้าหลัง หรือไม่ตรงตามแนวทางพัฒนาในภาพรวมของจังหวัด วันนี้ 21 ตุลาคม 2564 ในอำเภอเด่นชัยเริ่มมีแสงแดดอากาศสดใสขึ้นแล้วหลังจากที่ฝนตกติดต่อกันทุกวัน ฟ้าเต็มไปด้วยเมฆปกคลุมมานาน กลุ่มเกษตรกรอินทรีย์ในอำเภอสูงเม่น และ อำเภอเด่นชัยพากันมาเยี่ยมชมผลงานของกันและกัน แลกเปลี่ยนสภาพปัญหาโรคแมลงศัตรูพืช โดยมีการแนะนำเพื่อหาทางออกในการเดินหน้าทำเกษตรอินทรีย์ภายใต้มาตรฐานเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วม SDG-PGSs ของสมาพันเกษตรกรรมยั่งยืนแห่งประเทศไทย
ล่าสุดในสวนของนายภาณุพงษ์ บัวศร หรือพี่จู๋ บ้านไทรย้อย หมู่ 12 ตำบลไทรย้อย อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ แปลงปลูกข้าวของพี่จู๋ ใช้ระบบผสมผสานปลอดปุ่ยเคมีและเคมีกำจัดวัชพืชแบบ 100 % นานกว่า 1 ปีมาแล้วแปลงนี้อยู่ในระยะปรับเปลี่ยนจากเคมีมาสู่มาตรฐานอินทรีย์
เกษตรกรหัวก้าวหน้าเหล่านี้ มีแนวคิดต่อการเมืองท้องถิ่นและการเลือกตั้ง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล และ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล เป็นอย่างมาก เพราะเชื่อว่า การบริหารท้องถิ่นและใช้งบประมาณจากภาษีอากรควรมีความเข้าใจการพัฒนาทั้งกรอบการพัฒนาระดับประเทศและการพัฒนาในชุมชน โดยเฉพาะสิ่งที่เกษตรกรกำลังทำอยู่คือการแก้ปัญหาสารเคมีตกค้างในดินน้ำและผลผลิตที่เป็นอาหารนำไปสู่โรคภัยไข้เจ็บของผู้บริโภคและตัวเกษตรกรเอง
นายภาณุพงษ์ บอกว่า เกษตรอินทรีย์เป็นยุทธศาสตร์ชาติ และนักการเมืองทิ้งถิ่นไม่รู้อะไรเลยในการอาสาตัวเข้ามาพัฒนาท้องถิ่น การใช้งบประมาณที่ประชาชนไม่มีโอกาสได้รับทราบแม้ว่าจะมี ส.อบต.เข้าไปตรวจสอบแต่กลับไปเป็นฝ่ายเดียวกับบริหาร
ดังนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้ นอกจากการซื้อเสียง การใช้ญาติพี่น้องพวกมากลากไป เข้าสู่ชัยชนะ แล้วก็ไม่เห็นเกิดอะไรขึ้นกับการบริหาร สิ่งที่กลุ่มเกษตรกรอินทรีย์อยากเห็นและอยากได้นักการเมืองคือคนที่ต้องกลับมามองความสนใจของประชาชนทีมีหัวก้าวหน้าและช่วยกันผลักดินให้งานพัฒนาไปสู่ความสำเร็จ ถ้าไม่มีการเลือกตั้ง ก็จะไม่เคยเห็นหน้านักการเมืองเลย พอถึงวันเลือกตั้งก็จะมาหาเสียงกันโดยชาวบ้านไม่รู้ว่าเขาเป็นใครทำอะไรมาก่อน ในที่สุดการตัดสินใจก็คือการคาดเดาเพื่อไปคูหาเลือกตั้ง
อย่างไรก็ตามประชาชนยังอยากเห็นนักการเมืองพัฒนาตนเองให้มีความพร้อมในการพัฒนา ไม่ใช่เอาคนเรียนจบสูงแต่ควรเป็นคนที่เข้าใจประชาชนมาร่วมกันพัฒนาโดยประชาชนเป็นศูนย์กลาง ก่อนที่จะไปกำหนดเป็นนโยบายของผู้บริหาร อบต.
สำหรับกระแสการหาเสียงของนักการเมืองในจังหวัดแพร่ ยังคงใช้ระบบหัวคะแนนและบางรายวางแผนการจ่ายเงินผ่านเครือข่ายของตนเองในชุมชน นักการเมืองในท้องถิ่นไม่นิยมใช้แนวนโยบายมาเสนอให้ประชาชนเพื่อเป็นเครื่องมือให้ประชาชนได้ตัดสินใจในการเลือกตั้ง นี่คือ การเมืองรูปแบบใหม่และยังยืน
ธีรพงษ์ ธงออน/แพร่
Discussion about this post