เมื่อวันที่ 23 ต.ค.64 ทีมตอบโต้โควิด- 19 สมาคมกู้ภ้ยมุสลิมเบตง ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเบตงให้มารับร่างผู้เสียชีวิต จากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) จึงเดินทางไปยังตึกไอซียู โรงพยาบาลเบตงเพื่อดำเนินการรับร่างผู้เสียชีวิต เพศหญิง 1 ราย อายุ 58 ซึ่งเสียชีวิตด้วยโรคติดเชื้อ covid-19 เพื่อกลับไปประกอบพิธีฝังศพตามพิธีการศาสนาอิสลาม ที่กูโบร์ (สุสาน ) บ้านบังนังซีแน ต.ยะรม อ.เบตง จ.ยะลา พร้อมประกอบพิธีละหมาดญานาซะห์ และปฏิบัติตามแนวทางการปฏิบัติควบคู่กับมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดโดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยมุสลิมสวมชุด PPE ทำการฝังจนแล้วเสร็จ นับเป็นการเสียชีวิตรายที่ 14 ราย ของอำเภอเบตง จังหวัดยะลา โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ
ด้าน นายวงศ์วิทย์ อัครวโรทัย สาธารณสุขอำเภอเบตง เปิดเผยว่า แม้ว่าสถานการณ์ covid-19 ในพื้นที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา จะพบผู้ติดเชื้อลดลงจากอาทิตย์ที่ผ่านมา จากหลังร้อยเป็นหลักสิบ โดยในวานนี้ มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 48 ราย ยอดสะสม จำนวน 3,233รายเฉพาะอำเภอเบตง สาเหตุการติดเชื้อเกิดจากการสัมผัสร่วมบ้าน และสัมผัสร่วมกิจกรรม ส่วนผู้เสียชีวิต เป็นผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนแม้แต่เข็มเดียว โดยภาพรวมผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนที่ติดเชื้อ อาการจะไม่รุนแรง
ขณะนี้จังหวัดยะลามีวัคซีนไฟเซอร์อยู่ที่ 120,000 โดส ซึ่งจะสามารถฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 ให้กับคนยะลา หรือผู้ที่มาทำงานที่ จ.ยะลา ได้อีก 120,000 คน ซึ่งถ้าฉีดวัคซีนถึง 95,000 โดส หรือ ฉีดหมดทั้ง 120,000 โดส ก็จะทำให้อัตราการฉีดเกิน 70 เปอร์เซ็นต์ ก็จะให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ได้ และมาตรการที่จะต้องช่วยกัน ถึงคลายล็อคแล้ว ก็ต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า และรักษาระยาห่าง ถึงแม้เราจะฉีดวัคซีนครบแล้วก็ตาม ก็มีโอกาสติดเชื้อได้.
Discussion about this post