
วันที่ 26 ตุลาคม 2564 ผู้สื่อข่าว จ.สกลนคร ได้รับร้องเรียนจากหญิงสาวคนหนึ่งว่าตนได้ขับรถไปเฉียวชนกับคู่กรณี แล้วจับพิรุธได้ว่าอาจจะเป็นแก็งค์ตบทรัพย์เคยที่เป็นข่าวก็ได้ ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ไปตรวจสอบถนนเส้น วานร-คำตะกล้า อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร พบ น.ส.นริศรา บันทราช อายุ 41 ปี ให้ข้อมูลว่า วันเกิดเหตุเป็นวันที่ 23 ตุลาคม 2564 เวลาประมาณ 14.30 น. ตนนั้นขับรถมากับแม่วัย 78 ปี พอมาถึงจุดเกิดเหตุได้สังเกตุเห็นว่ามีรถเก๋งสีดำ ไม่ทราบยี่ห้อ ทะเบียน ขับมาจี้ด้วยความเร็ว และข้างหน้านั้นมีรถเก๋งสีบรอนด์ ไม่ทราบยี่ห้อ ทะเบียนขับอย่างช้าๆ ตนจึงตัดสินใจขับแซงขวาแต่รถเก๋งคันสีดำก็ขับแซงตามหลังมาในขณะที่ยังแซงไม่พ้น ด้วยความตกใจจึงรีบหักเข้าข้างซ้ายเป็นเหตุให้เฉียวชนกับรถเก๋งสีบอนด์ เลยรีบชะลอจอดข้างถนน สังเกตุเห็นว่ารถเก๋งสีดำที่จี้นั้นชะลอดูก่อนจะขับออกไป คนขับเป็นผู้ชายรูปร่างสูงท้วมก็เดินลงมาจากรถเก๋งสีบอนด์ บอกตนว่า ผมไม่คุยอะไรด้วยนะครับ ผมไม่ใช่เจ้าของรถ
ต่อมาผู้ชายรูปร่างผอมอีกคนอ้างว่า รถตนเป็นรถมือสองทำสี ซ่อมมาแล้ว อ้างต่อว่าเป็นช่างพร้อมประเมินราคาค่าเสียหายและจะซ่อมเอง ยังถามอีกว่าจะติดต่อหรือโทรหาประกันไหม ด้วยความว่ามีผู้หญิงสองคนเกรงจะได้รับอัตรายตนจึงรีบถามค่าเสียหาย คู่กรณีก็เรียกเงินเป็นจำนวน 4,000 บาท ตามที่อ้างไว้ก่อนหน้านี้ ตนไม่มีเงินสดขอจ่ายแบบโอน คู่กรณีก็ตอบตกลงแจ้งเลขบัญชี หลังจากโอนเงินเสร็จก็แยกย้าย

ในขณะที่ ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าที่ อ.เมือง จ.สกลนคร มีกรณีที่คล้ายกันกับตนจึงติดต่อไปยังผู้เสียหายอีกราย แล้วบอกรูปพรรณสันฐานและลักษณะการก่อเหตุ ปรากฏมีความคล้ายคลึงกันตนรู้สึกผิดสังเกตุก็รีบไปแจ้งความไว้ที่ สภ.วานรนิวาส พร้อมหลักฐานเป็นสลิปการโอนเงิน ขณะนี้ จนท.ตำรวจ ได้รวบรวมหลักฐานเตรียมดำเนินตามกฎหมายต่อไป ฝากถึงคู่กรณียุคนี้ข้าวยากหมากแพง ใครๆก็หาเงินกัน อย่าไปทำกับใครอีกเลย.
/ วัฒนะ แก้วก่า / สกลนคร
Discussion about this post