เมื่อเวลา 11:00 น วันที่ 4 พฤศจิกายน 2564 นายไพรัชต์ เมตตาไพจิตร์ “นายตูน” อายุ 29 ปี เข้าแจ้งความต่อ พนักงานสอบสวน สภ. เด่นชัย กล่าวหา “น้องหมิว” นามสมมุติ ให้การเท็จต่อเจ้าหน้าที่ ทำให้ตนได้รับความเสียหาย ทั้งนี้ “น้องหมิว” ให้การว่า ตนเป็นหัวหน้าแก๊งค์ เด็กที่เข้ามารุมทำร้าย ความจริงแล้ว เข้าไปห้ามปราม และควบคุมดูแล”น้องหมิว” ไม่ให้ถูกทำร้ายเพิ่มอีก ในขณะที่ ได้ตะโกนห้าม คู่กรณีไม่ให้เข้ามาใกล้น้องหมิวอีก แต่น้องหมิว เข้าใจว่า ต้นข่มขู่ จึงไปแจ้งความ ตามที่เข้าใจ ทำให้กลายเป็นคนผิด ความจริงแล้ว เป็นผู้เข้าไปห้ามไม่ให้เกิดการทะเลาะวิวาทและควบคุมผู้ที่อ่อนแอไม่ให้ถูกทำร้ายต่อ การให้ข่าวและแจ้งความต่อเจ้าพนักงานสอบสวนของ”น้องหมิว”สร้างความเสียหายขณะนี้ถูกวัยรุ่นในโซเซียลต่างออกมาบูลลี่ บางรายถึงกลับ ตั้งค่าหัว 500 บาท บางรายถึงกับขู่ฆ่า
ต่อมา ทาง พ.ต.ท.วีรพล พลมณี ผกก.สภ.เด่นชัย จ.แพร่ ได้นำเยาวชน ทั้งหมดที่มาแจ้งความทำความเข้าใจช่องทางการดำเนินคดีและกล่าวว่าขณะนี้มีการร้องทุกข์กล่าวโทษไปแล้ว ที่สภ.สูงเม่น มี ร้อยตำรวจเอก สมเกียรติกอบกำ รองสวสอบสวน สภสูงเม่น ได้รับเรื่องไว้ก่อนแล้ว การจะดำเนินคดีเพิ่มเติมหรือไปแสดงข้อเท็จจริง ควรประสานไปยัง รพ. สูงเม่น เร็วกว่า รวมทั้งพื้นที่เกิดเหตุ ส่วนใหญ่อยู่ที่อ่างเก็บน้ำแม่มาน เขตตำบลหัวฝาย อำเภอสูงเม่นด้วย ทำให้กลุ่มเยาวชน พากันกลับมาที่ สภ.สูงเม่น เข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อแสดงตัวว่าตนเอง เป็นผู้บริสุทธิ์และไม่ใช่หัวหน้าแก๊งตามที่มีการให้การแต่อย่างใด
ทางนายไพรัชต์ เมตตาไพจิตร์ หรือนายตูน กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีกลุ่มน้องๆเด็กผู้หญิง ทะเลาะวิวาทกันด้วยเหตุชู้สาวและอื่นเกิดขึ้น 3 ครั้ง ครั้งแรก15 ตุลาคม น้องหมิวกับน้องพั้น ทะเลาะกันถึงขั้นตบตีจากเรื่อง ชู้สาว ครั้ง 2 วันที่ 25 ต.ค. “น้องหมิว”กับ “น้องบิว” ทะเลาะกันที่หน้าร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ของตน หมู่ 8 ต.แม่จั๊วะ อ.เด่นชัยฯ ด้วยประเด็น “น้องหมิว”จะมาขออยู่ด้วยแต่ “น้องบิว” ยืนยันว่าอยู่ไม่ได้เพราะ”น้องหมิว” หนีออกจากบ้านผู้ปกครองไปแจ้งความไว้แล้วอาจทำให้เดือดร้อน เป็นสาเหตุให้ตบตีกัน มาครั้งที่ 3 วันที่ 29 ต.ค ที่อ่างแม่มาน ต.หัวฝาย มีวัยรุ่นผู้หญิงจำนวนมาก วัยรุ่น รุมทำร้าย”น้องหมิว” ก็ได้เข้าไปห้ามปรามและไล่พวกวัยรุ่นผู้หญิงที่ รุมทำร้าย”น้องหมิว” พร้อมทั้งบอกว่าอย่าเข้ามายุ่งอีก ในขณะที่ป้องกัน”น้องหมิว” ไว้ แต่”น้องหมิว”เจ็บหนักไม่รู้ว่าใครมาช่วยจึงคิดว่าเป็นหัวหน้าแก๊งค์ที่มารุมทำร้าย ไปให้การกับตำรวจ ให้สัมภาษณ์นักข่าว จนตกเป็นจำเลยสังคมวัยรุ่นในโซเชียล มีทั้งด่าแรงประนาม จ้างวาน 500 บาททำร้ายร่างกาย รวมทั้งขู่เอาชีวิต
นายตูน พูดอีกว่า “ตอนนี้ไม่กล้าไปไหนกลัวกลุ่มวัยรุ่นเลือดร้อนทำร้าย จึงขอมาพึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงและได้ติดต่อไปปรับความเข้าใจกับ”น้องหมิว”แล้วในช่วงเช้าวันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นตัวชี้วัดสำคัญ ของสภาพสังคมไทย ในจังหวัดแพร่ เป็นปัญหาเยาวชน ที่เกิดจาก ปัญหาครอบครัว ครอบครัวยากจน หย่าร้าง และอีกหลากหลายปัญหา ส่งผลถึง เยาวชน ที่ต้องเผชิญชีวิต ท่ามกลางความเสี่ยง จากสิ่งเร้าในสังคม จากสื่อออนไลน์ เด็กหลายคน หนีออกจากบ้าน จนเกิดปัญหาใหญ่ขึ้นมา ต้องฝากหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง เข้าไปการแก้ไขปัญหา ของเยาวชนที่เกิดขึ้นอย่างเรางด่วนด้วย ซึ่งสังคมกำลังเฝ้ามองกับการทำงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ด้วย
Discussion about this post