
จากกรณีที่มีเหตุพบศพ หญิง วัย 65 ปี นอนคว่ำหน้าจมน้ำเสียชีวิตในคลองหน้าบ้านพัก เลขที่ 116 หมู่ 5 ตำบลคลองด่าน อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งจากการตรวจสอบพบมีเลือดไหลออกทางเบ้าตา หลังเกิดเหตุฝ่าย สืบสวน สภ คลองด่าน ได้ลงพื้นที่หาเบาะแสและพยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุจนทราบว่าหลังเกิดเหตุมีพยานในละแวกที่เกิดเหตุพบเห็นน้องเขยของผู้ตายได้วิ่งออกมาจากจุดเกิดเหตุ ท่าทีรีบร้อนอย่างมีพิรุธ ฝ่ายสืบสวน สภ คลองด่าน จึงเร่งคิดตามตัวน้องเขยมาสอบปากคำ
ล่าสุดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่สถานีตำรวจภูธรคลองด่าน พ.ต.อ. รักษ์ศักดิ์ เมฆจินดา ผกก.สภ.คลองด่าน พ.ต.ท. ศุภกฤต พูลศักดิ์ รองผกก.สส.สภ.คลองด่าน ร่วมกันคุมตัวนายชาติชาย สิทธิเลิศ อายุ 59 ปี น้องเขยของผู้ตายที่หายตัวไปในวันเกิดเหตุ ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย คุมตัวมาสอบปากคำ และ บันทึกการจับกุม หลังฝ่ายสืบสวนติดตามไปจับกุมตัวได้ที่บ้านพักของพี่สาวผู้ต้องหาที่ย่านอำเภอพระสมุทรเจดีย์

นายชาติชาย ผู้ต้องหารายนี้ให้การรับสารภาพว่า ตนเองเป็นผู้ลงมือก่อเหตุใช้ไม้ฟาดที่กดหูของพี่สะใภ้จริง สาเหตุมาจากการที่ตนเองซึ่งในขณะนั้นมีอาการมึนเมาสุราร่วมด้วย ได้เดินทางมาตามหาภรรยาและลูกกับพี่สะใภ้ เพื่อจะถามหาสาเหตุ ที่ภรรยาหายจากบ้านพักของตนเองไปก่อนหน้านี้ หลังจากที่ตนเองเดินทางไปร่วมงานศพที่จังหวัดน่านพอกลับมาบ้านพักพบว่าบ้านถูกขายให้คนอื่นแล้วจึงตัดสินใจเดินทางมาหาภรรยาที่บ้านในละแวกที่เกิดเหตุ แต่ไม่เจอภรรยา ระหว่างที่ถามหาภรรยา ผู้ต้องหารายนี้อ้างว่าถูกพี่สะใภ้ด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย จนเกิดความโมโห ตัดสินใจคว้าไม้เท้าที่ตนเองใช้ค้ำยันพยุงเดิน ฟาดไปที่กกหูของพี่สะใภ้หนึ่งครั้งจนล้มหน้าคว่ำไปในน้ำจากนั้น ด้วยความตกใจจึงรีบวิ่งหนีออกมาก่อนจะให้คนรู้จักกันไปส่งหาพี่สาวที่ย่านพระสมุทรเจดีย์ จนกระทั่งมีตำรวจตามไปจับกุม ยอมรับว่าก่อเหตุจริงจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงคุมตัวน้อยเขยมือโหดรายนี้ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดเกิดเหตุเพื่อใช้ประกอบสำนวนทางคดีส่งอัยการฟ้องศาลจังหวัดสมุทรปราการต่อไป
ด้าน น้องสาวผู้ตาย นางอภิรดี พูลสวัสดิ์ เผย นายนิ่ม หรือ ผู้ต้องหารายนี้ ให้การจัดแย้งความเป็นจริง จากกรณีที่อ้างว่าไม่ได้พักอยู่บ้านหลังเกิดเหตุและมาตามหาลูกเมีย ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เพราะนายนิ่มนั้นพักอยู่บ้านที่เกิดเหตุมาได้สามถึงสี่ปีแล้วไม่ได้ไปพักไหน เนื่องจากไปพักที่ไหนไม่ได้เพราะไม่มีใครต้อนรับ เพราะมาจากความเมาแล้วชอบโวยวายคุมตัวเองไม่อยู่ หลังจากที่ภรรยาของนายนิ่ม ซึ่งเป็นน้องสาวของผู้ตาย ได้เสียชีวิตไปทำให้เหลือเพียงบุตรของนายนิ่ม ด้วยความที่ผู้ตายเป็นคนโอบอ้อมอารีและเห็นอกหลานจึงให้นายนิ่มมาพักด้วยที่บ้านหลังนี้ ส่วนผู้ตายก็จะพักประจำอยู่ที่บ้านอีกหลังในเขตเมืองสมุทรปราการ แล้วจะเวียนไปมาบ้านหลังเกิดเหตุบ่อยครั้ง เวลาต้องการมาพักผ่อนสมอง ก่อนเกิดเหตุผู้ตายบอกกับตนเองว่าจะมาพักผ่อนที่บ้านหลังนี้ ซึ่งก็ได้รักหมายกันไว้ว่าจะพากันมาทำอาหารทานกันเพราะบรรยากาศดีเงียบสงบจนกระทั่งติดต่อผู้ตายไม่ได้จึงพากันมาตามหาและพบกลายเป็นศพแล้ว เหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นรู้สึกตกใจและโกรธที่ผู้ก่อเหตุกลายเป็นนายนิ่ม ซึ่งไม่รู้จักรข้าวแดงแกงร้อนและลงมือก่อเหตุกับผู้ที่เลี้ยงดูเขาเป็นอย่างดี
*** ภาพ – ข่าว ก๊วก สมุทรปราการ ***
Discussion about this post