เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2564 พลตำรวจเอกสมศักดิ์ จันทะพิงค์ นายกอบจ.นครสวรรค์ พร้อมคณะผู้บริหาร อบจ.นครสวรรค์ ประชุมร่วมกับ แพทย์หญิงมนทกานติ์ โอประเสริฐสวัสดิ์ รองอธิการบดีฝ่ายโครงการจัดตั้งมหาวิทยาลัยมหิดลวิทยาเขตนครสวรรค์ นายแพทย์เชิดเกียรติ เติมเกษมศานต์ ผู้อำนวยการศูนย์การแพทย์มหิดลบำรุงรักษ์ จังหวัดนครสวรรค์ และนางศศิธร มารัตน์ พยาบาล พร้อมด้วยคณะอนุกรรมการและที่ปรึกษาด้านการบริหารจัดการสถานสงเคราะห์คนชราบ้านเขาบ่อแก้ว เพื่อจัดทำข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการระหว่าง โครงการจัดตั้งวิทยาเขตนครสวรรค์ มหาวิทยาลัยมหิดล กับ องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครสวรรค์ เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการเป็นสังคมผู้สูงอายุ สำหรับผู้สูงอายุ
โดยที่ผ่านมาสถานสงเคราะห์คนชรานิคมเขาบ่อแก้วและวิทยาเขตนครสวรรค์ มหาวิทยาลัยมหิดล
ได้ความร่วมมือในการพัฒนาการระบบดูแลผู้สูงอายุ และทำการขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งเริ่มจาก ต.เขาทอง และ ต.นิคมเขาบ่อแก้ว โดยวันนี้ได้ทำการพิจารณาและยกร่าง ก่อนจะลงนามร่วมกัน ได้เริ่มจากอบรมหลักสูตรผู้ดูแลผู้สูงอายุระดับต้น 70 ชั่วโมง ต่อเนื่องถึงโครงการเพื่อนเยี่ยมเพื่อน ซึ่งเป็นโครงการที่ผู้สูงอายุได้ทำกิจกรรมรวมกัน แต่เนื่องจากศถานการณ์โควิด-19 ทำให้ต้องเลี่ยงกิจกรรมต่าง ๆ ที่เป็นการร่วมตัวกัน ส่งผลให้ผู้สูงอายุไม่สามารถได้ทำกิจกรรมร่วมกัน
พลตำรวจเอกสมศักดิ์ กล่าวว่า “เนื่องจากสถานการณ์ตอนนี้ทางอบจ. ได้คำนึงถึงการรองรับผู้สูงอายุที่จะอยู่กับสถานสงเคราะห์คนชรานิคมเขาบ่อแก้ว ว่าสามารถรองรับได้เพียงพอหรือไม่ เพราะผู้สูงอายุกำลังจะมีมากขึ้น มีความต้องการใช้บริการรูปแบบนี้เท่าไหร่ในพื้นที่ 9 จังหวัด ทั้งในภาคเอกชน และในภาครัฐ ซึ่งทางอบจ.ต้องขยายพื้นที่เพื่อรองรับผู้สูงอายุที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมทั้งเตรียมพัฒนาบ้านพักในรูปแบบที่ให้เหมาะสมกับผู้สูงอายุ เพื่อให้รู้สึกเหมือนการได้เข้าอยู่ในบ้านของตัวเอง รวมไปถึงการมีสังคมบ้านพักคนชราในฝันอย่างสมบูรณ์ อีกทั้งการเสริมกิจกรรมให้ผู้สูงอายุได้มีรายได้ เพราะผู้สูงอายุยังคงอยากมีเงินเพื่อการจับจ่ายใช้สอยหรือให้ลูกหลานเวลาที่มาเยี่ยมเยียน เราต้องคำนึงถึงความสุขของผู้สูงอายุ เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี และ อบจ.มีแผนเตรียมพัฒนาพื้นที่ 100 กว่าไร่ เพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุในอีก 5 ปีข้างหน้าในพื้นที่ 9 จังหวัด ซึ่งในปัจจุบันสามารถรองรับได้เพียง 130 เตียงเท่านั้น”
แพทย์หญิงมนทกานติ์ กล่าวว่า “ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีในการนำเอาองค์ความรู้ทางวิชาการมาใช้ เพื่อผู้สูงอายุ และขอชื่นชมท่านนายกฯ ที่เล็งเห็นความสำคัญของผู้สูงอายุ เพราะในอนาคตข้างหน้าอีก 10 ปี จะมีผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอีก 30 % มีการตื่นตัวเตรียมพร้อมในดูแลตัวเอง เพื่อทำกิจกรรมร่วมกับสังคมผู้สูงอายุ”
นายแพทย์เชิดเกียรติ กล่าวว่า “ทางม.มหิดลมีกลุ่มงานเพื่อดูแลผู้สูงอายุ โดยหากผู้สูงอายุไม่มีอาการป่วย จะมีกิจกรรม เป็นการเสริมศักยภาพแก่ผู้สูงอายุ และสำหรับผู้มีอาการป่วย ทางม.มหิดลมีศูนย์การแพทย์ เพื่อรักษาผู้ป่วยในระยะสั้น ๆ หรือ 14 วัน โดยมีแผนกกายภาพบำบัด การนวดแผนไทย และการฝังเข็ม เพื่อเป็นการฟื้นฟูผู้ป่วย ร่วมไปถึงการสอนการปฏิบัติตัวหลังจาการักษาและกลับบ้านพร้อมมนี้เตรียมวางแผนจะให้มีแผนกระยะสุดท้ายของชีวิต เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้ช่วยเหลือผู้ป่วยที่ไม่สามารถช่วยตัวเอง”
“ในระยะเวลาอีกไม่นานประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยหรือสังคมคนชราอย่างสมบูรณ์แบบ เราจึงต้องมีการเตรียมการวางแผนรองรับ มีการดูแล รวมทั้งให้ผู้สูงวัย ได้อยู่อย่างมีความสุข มีคุณค่า และสามารถอยู่ได้ด้วยตนเองในชุมชนของผู้สูงวัย โดยจะเปลี่ยนชื่อจากสถานสงเคราะห์หรือนิคม ให้ดูน่าฟังและให้ความรู้สึกที่ดี นอกจากเรื่องสถานที่แล้ว ต่อไปจะต้องมีการปรับปรุงในเรื่องของอาหาร รวมไปถึงทางด้านสุขภาพจิต ที่จะมีการดูแลอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ อันเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงวัยให้ดีขึ้น” พลตำรวจเอกสมศักดิ์ จันทะพิงค์ กล่าวในที่สุด.
Discussion about this post