ที่โรงเรียนบ้านหว้าน (รัฐราษฎร์นุกูล) หมู่ที่ 2 ต.หว้านคำ อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ เป็นประธานรับมอบผ้าห่มกันหนาว โครงการ “ไทยเบฟ รวมใจต้านภัยหนาว” ปีที่ 22 ประจำปี 2564 จำนวน 13,000 ผืน และอุปกรณ์กีฬา จาก นายอดิศักดิ์ เทพอาสน์ ประธานคณะกรรมการโครงการไทยเบฟ บรรเทาสาธารณภัยและจิตอาสา บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และคณะ โดยมี นางมัลลิกา พุฒิชาติ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดศรีสะเกษ นายบุญประสงศ์ นวลสายย์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จังหวัดศรีสะเกษ นายชัยยงค์ เมธาสุรวิทย์ นายอำเภอกันทรารมย์ หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมเป็นเกียรติในพิธีรับมอบด้วย
นายวัฒนา กล่าวว่า สถานการณ์ภัยหนาวในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ขณะนี้มีร่องความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนแผ่เสริมลงปกคลุมประเทศไทยตอนบน ส่งผลให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอากาศหนาวเย็นในช่วงเช้าและในเวลากลางคืน โดยทั่วไป อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 20-21 องศาเซลเซียส ซึ่งในช่วงฤดูหนาวของปีนี้ กรมอุตุนิยมวิทยา ได้คาดหมายลักษณะอากาศว่า จะมีอากาศหนาวเย็นอย่างต่อเนื่องไปจนถึงเดือน ม.ค. 65
ในส่วนของข้อมูลผลการสำรวจความต้องการเครื่องกันหนาวสงเคราะห์ราษฎรในพื้นที่ จังหวัดศรีสะเกษ ประจำปี พ.ศ. 2563 ที่ผ่านมา พบว่ามีราษฎรในพื้นที่มีความต้องการเครื่องกันหนาว จำนวน 223,993 คน แยกเป็น ผู้สูงอายุ จำนวน 106,413 คน เด็กไร้ผู้อุปการะ จำนวน 3,218 คน คนพิการทุพพลภาพ จำนวน 27,112 คน ผู้มีรายได้น้อย จำนวน 33,280 คน และผู้ประสบความเดือดร้อนทั่วไป จำนวน 53,970 คน โดยเครื่องกันหนาวที่ต้องการมีจำนวนทั้งสิ้น 266,688 ชิ้น
สำหรับแนวทางการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาว/หรือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสภาวะอากาศหนาวเย็นปีนี้ จะใช้แนวนโยบายในการขอรับการสนับสนุนเครื่องกันหนาวไปยังหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกขน ภาคประชาชน องค์กรและมูลนิธิต่าง ๆ เพื่อนำไปช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน แก่ผู้ประสบภัยหนาวในพื้นที่
และโอกาสนี้ ขอขอบคุณบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เป็นอย่างสูงที่มีความห่วงใยประชาชนในพื้นที่ห่างไกลและจัดทำโครงการดังกล่าวเป็นประจำทุกปี และปีนี้ได้กรุณาจัดสรรผ้าห่มกันหนาวให้กับจังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 13,000 ผืน รวมถึงพิจารณาคัดเลือกจังหวัดศรีสะเกษ เป็นจังหวัด ในการจัดพิธีมอบผ้าห่มกันหนาวตามโครงการดังกล่าวด้วย โดยผ้าห่มที่จังหวัดได้รับจัดสรร จะนำไปมอบให้แก่ประชาชนในพื้นที่จังหวัด ทั้ง 22 อำเภอ ต่อไป.
Discussion about this post