ที่ สถานีตำรวจภูธรตากใบ ตำบลเจ๊ะเห อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 / ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส พร้อมด้วย พลตำรวจตรี แวสาแม สาและ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส และ นางสาวประอรรัตน์ รัตนพรสมปอง ผู้อำนวยการส่วนควบคุมทางศุลกากรด่านศุลกากรตากใบ พร้อมทั้งส่วนที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าวบูรณาการร่วมกันจับกุมบุหรี่เถื่อน
ด้านพลตำรวจตรี แวสาแม สาและ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้กำหนดให้มีการระดมกวาดล้างอาชญากรรมทั่วประเทศ ใน ห้วงวันที่ 11-20 พฤศจิกายน 2564 ประกอบกับนโยบายของ พลโทเกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 /ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 และพลตำรวจโท นันทเดช ย้อยนวล ผู้บัญชาการตำรวจภาค 9 ให้มีการดำเนินการ ป้องกันและปราบปรามปัญหาภัยแทรกซ้อน สิ่งผิดกฎหมาย ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้นั้น ตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ได้มีผลการปฏิบัติการสำคัญ กล่าวคือ เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2564 เวลาประมาณ 10.00 น. ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่าภายในบ้านเลขที่ 122/6 และบ้านเลขที่ 122/7 ชุมชนท่าแพรก หมู่ที่ 4 ตำบลเจ๊ะเห อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส เป็นแหล่งซุกซ่อนบุหรี่ ต่างประเทศ จึงได้บูรณาการกำลัง 3 ฝ่าย ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ตำรวจภูธรนราธิวาส เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำตากใบ ตำรวจตะเวนชายแดนที่ 447 ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรตากใบ บังคับใช้กฎหมายเข้าตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าว ผลจากการตรวจสอบ พบบุหรี่ต่างประเทศ ยี่ห้อ NEX จำนวน 90 ลัง (72,000 ซอง) บุหรี่ยี่ห้อ VESS (เขียว) 16 ลัง (21,000 ซอง) และบุหรี่ยี่ห้อ VESS (แดง) 1 ลัง (500 ซอง) รวมทั้งหมด 93,500 ซอง ซึ่งของกลางทั้งหมดวางไว้บนพื้นภายใน ห้องนอนบ้านเลขที่ 122/6 และบ้านเลขที่ 122/7 หมู่ที่ 4 ตำบลเจ๊ะเห อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส โดยในขณะตรวจค้นนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจยึดได้ตรวจสอบบุคคลใกล้เคียง ไม่ปรากฏว่ามีผู้ใดแสดงตนเป็นเจ้าของบ้าน เจ้าหน้าที่จึงได้ดำเนินการตรวจยึดของกลางดังกล่าวทั้งหมด นำส่งพนักงานสอบสวน สถานี ตำรวจภูธรตากใบ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ทางด้านพลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 / ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส กล่าวว่า เป็นไปตามนโยบายของ พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก และ พลโทเกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 /ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4
ซึ่งได้เน้นย้ำเรื่องการสกัดกั้นตามแนวชายแดนพยายามทำทุกวิถีทางในการเพิ่มเติมกำลังในการป้องกันชายแดนให้มากขึ้นรวมทั้งการใช้เครื่องมือยุทโธปกรณ์พิเศษในการเข้าตรวจตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อสกัดกั้นตามแนวชายแดน
ไทย – มาเลเซีย ป้องกันการลักลอบหลบหนีเข้าเมือง การกระทำผิดกฎหมายตามแนวชายแดนทุกประเภท ป้องกันภัยแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นเพื่อตัดวงจรการกระทำผิด รวมไปถึงการลักลอบนำสิ่งผิดกฎหมายเข้ามายังประเทศไทย เป็นการการนำเครื่องมือ ยุทโธปกรณ์พิเศษ ทางทหารที่มีอยู่ ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ต่อไป
ทั้งนี้พี่น้องประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมายตามแนวชายแดน โดยสามารถแจ้งข้อมูลให้กับหน่วยทหารในพื้นที่ หรือโทรผ่านสายด่วน 191 และสายด่วนความมั่นคง 1341 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.
Discussion about this post