วันที่ 19 พฤศจิกายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงาน ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 ได้รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาท บริเวณหมู่บ้านเปี่ยมสุข1 จึงไปตรวจสอบทราบชื่อผู้แจ้งคือ นายอุดม เอ็นดู อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46/14 ม.3 ต.โพสะ อ.เมือง จ.อ่างทอง เบื้องต้น ทราบว่าเมื่อวานที่ผ่านมาได้ถูกลูกสาวของบ้านข้าง ๆ นำกระถางต้นไม้มาโยนใส่รถยนต์ที่จอดอยู่บริเวณหน้าบ้านถึง 2 ครั้ง ในช่วงสาย และช่วงประมาณ 4 ทุ่มของเมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งตนเองได้มาดูที่รถแต่ไม่เป็นอะไรมากจึงแค่ทำความสะอาด ต่อมาเมื่อช่วงเช้าจึงได้ตรวจสอบ ก็เห็นกระจกเป็นรอยแตก ก็ไม่คิดอะไร พอตอนเที่ยงเราก็ขึ้นบ้านเพื่อจะนอนพักผ่อน จนกระทั่งช่วงบ่ายได้ยินเสียงเปิดประตูจากบ้านข้าง ๆ จึงรู้สึกเอะใจว่าต้องมีอะไรแน่ ๆ นึงลุกขึ้นจากที่นอนแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือเพื่อมาถ่ายคลิป ซึ่วเป็นจริงอย่างที่ดิด ข้างบ้านกำลังเอาถุงขยะสีดำมาโยนใส่รถของตนเอง และรีบเดินเข้าบ้านไป ซึ่งเมื่อเห็นดังนั้นตนเองจึงโทรศัพท์แจ้ง 191 ให้มาตรวจสอบ ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามต่อว่าจะเอาเรื่องกับเพื่อนบ้านรายนี้มั้ย นายอุดม กล่าวต่ออีกว่า คงต้องไปลงบันทึกประจำวัน เพื่อทำอะไรสักอย่าง ซึ่งตอนนี้เค้าทำให้เรารู้สึกไม่ปลอดภัย เมื่อก่อนโทรแจ้ง เค้าก็เอามีดออกมา ก็จะไล่ฟันผม
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเรียกคู่กรณีบ้ายข้าง ๆ เพื่อออกมาตกลงพูดคุย จึงได้พบกับนายประเสริฐ ทรงวาศน์ อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46/15 ม.3 ต.โพสะ อ.เมือง จ.อ่างทอง ซึงได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ผู้ก่อเหตุเป็นลูกสาวของตนเองชื่อนางสาวศิริลักษณ์ ทรงวาศน์ (น้องแอม นามสมมุติ) อายุ 29 ปี มีอาการป่วยทางจิตเวช เรียนจบปริญญาตรี ออกมาทำงานได้เพียง 1 ปี ก็ต้องออกจากงาน เนื่องมีอาการป่วย ซึ่งช่วงนี้ลูกสาวขาดยาที่กินต่อเนื่องเป็นประจำ ในข่วงโควิดระบาด อีกทั้งในตอนนี้ก็ไม่ยอมที่จะกินยา โดยก่อนหน้านี้ผู้เป็นแม่ก็ต้องย้ายหนีไปอยู่ที่อื่น เนื่องจากทะเลาะกันอย่างรุนแรงถึงขั้นจะเอามีดไล่ฟันกัน โดยผู้เป็นพ่อกล่าวต่ออีกว่า แม้กระทั่งตนเองก็ยังถูกด่า พูดจากูมึงกับตนเอง ซึ่วเราก็เตือนลูกว่านี่พ่อนะลูก พูดกับพ่อให้ดี ๆ เมื่อพูดจบก็จะโดนด่าสวนกลับ ซึ่งปัจจุบันเราต้องต่างคนต่างอยู่ ใช้ชีวิตแยกกัน ทำกินใครกินมัน เพราะเค้าไม่ยุ่งกับใคร แต่ตนเองเป็นพ่อยังเราก็ต้องดูแลเค้า ให้เงินเค้าเพื่อใช้จ่าย เค้าเคยไปซื้อของไม่จ่ายเงินก็มีบ่อยครั้ง เคยแม้กระทั่งเดินไปศาลากลางเพื่อไปคุยกับผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทองคนก่อน ซึ่งเราไม่มีใครห้ามเค้าได้เลย
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แนะนำพ่อผู้ก่อเหตุให้นำตัวลูกสาวไปทำการรักษาอาการทางจิตเวช เนื่องจากตอนนี้เพื่อนบ้านหลายคนมีความรู้สึกว่าไม่ค่อยปลอดภัย เมื่อมีการถือทีดออกมาเพื่อจะทำร้าย ซึ่งก่อนหน้านี้มีอาการแค่ชอบตะโกนด่า หรือบ่น ซึ่งทุกคนก็เข้าใจและยังพอรับได้ ขณะเดียวกันได้แนะนำให้ผู้เสียหายไปพบพนักงานสอบสวนเพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานต่อไป
หิรัญยวัต อธิวัฒน์เดชากร / อ่างทอง
Discussion about this post