
วันที่ 24 พฤศจิกายน 2564 ที่ห้องประชุมพระธาตุพนม ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครพนม หลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดฯ นายวรรณพล ต่อพล รอง ผวจ.นครพนม พร้อมด้วย นพ.ปรีดา วรหาร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม นพ.ธนสิทธิ์ ไพรพงษ์ ผอ.รพ.นครพนม และ นพ.กิตติเชษฐ์ ธีรกุลพงศ์เวช รอง สสจ.นครพนม (ด้านเวชกรรมป้องกัน) ร่วมแถลงข่าวรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโรคโควิด ว่า มีพบผู้ป่วยใหม่จำนวน 3 ราย เป็นการติดเชื้อในพื้นที่เขตอำเภอบ้านแพง 1 ราย มีผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง 1 ราย และลักลอบหลบหนีเข้าเมืองจากประเทศเพื่อนบ้านอีก 1 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสม 5,094 ราย เสียชีวิตสะสม 28 ราย
ไทม์ไลน์ของผู้ป่วยที่ติดเชื้อจากพื้นที่เสี่ยงเป็นหญิงอายุ 30 ปี เป็นชาวอำเภอบ้านแพงเดินทางไปยังจังหวัดภาคใต้ด้วยสายการบิน ก่อนจะเดินทางกลับภูมิลำเนาด้วยรถยนต์ส่วนตัว และรับผิดชอบตัวเองด้วยการเข้ารับการตรวจค้นหาเชื้อพบผลเป็นบวก จึงไม่มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง อีกรายเป็นหญิงสาวชาวลาวอายุ 28 ปีทำงานอยู่ในฝั่งไทย ช่วงเทศกาลลอยกระทงได้ข้ามกลับไปที่บ้านเกิดตามช่องทางธรรมชาติ และลักลอบกลับฝั่งไทยด้วยเรือหาปลาในพื้นที่อำเภอท่าอุเทน ได้ถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงจับกุมส่งไปตรวจค้นหาเชื้อพบผลเป็นบวก ส่วนผู้ป่วยติดเชื้อในพื้นที่เป็นหญิงอายุ 18 ปีที่อยู่ในกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจากผู้ป่วยก่อนหน้านี้ ซึ่งทางสาธารณสุขนำตัวมากักไว้เพื่อรอการตรวจซ้ำในรอบสองและพบเชื้อดังกล่าว
นายแพทย์ปรีดา วรหาร นายแพทย์ สสจ.นครพนม ได้เปิดเผยต่อว่าในที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อฯ ได้เห็นชอบเปิดการเรียนการสอนแบบ On-Site เพิ่มเติม รวมเป็น 429 แห่ง จากทั้งหมด 551 แห่ง ส่วนที่เหลือติดเงื่อนไขด้านการฉีดวัคซีนยังไม่ทั่วถึง นอกจากนี้เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่จังหวัดนครพนม แม้จะเป็น 1 ใน 10 จังหวัดที่ตกเกณฑ์ประชาชนทั่วไปรับวัคซีนน้อยที่สุด แต่ในกลุ่ม 608 ประกอบไปด้วยประชากร 3 กลุ่มหลักๆ ได้แก่ 1.กลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป 2.กลุ่มผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว 7 โรค คือ โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง, โรคหัวใจและหลอดเลือด, โรคไตวายเรื้อรัง, โรคหลอดเลือดสมอง, โรคอ้วน, โรคมะเร็ง และโรคเบาหวาน และ 3.กลุ่มหญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป ทะยานขึ้นติดอันดับท๊อปไฟว์(TOP FIVE) เป็น 1 ใน 5 จังหวัดที่มีกลุ่ม 608 เข้ารับวัคซีนเกินกว่า 80 % มากที่สุด
ทั้งนี้ ในที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อฯ เห็นชอบกับ 4 มาตรการในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิดอย่างครอบคลุมของกระทรวงสาธารณสุข ได้แก่ 1.มาตรการด้านสาธารณสุข 2.มาตรการองค์กร 3.มาตรการทางสังคม 4.มาตรการป้องกันโรคส่วนบุคคลในการเปิดประเทศ(V-U-C-A) คือ V=Vaccine ฉีดครบ ลดป่วยหนัก U=(Universal Prevention) ป้องกันตัวเองตลอดเวลา ห่างไกลจากโรค C= COVID Free Setting สถานที่บริการพร้อม ผู้ให้บริการฉีดวัคซีนครบ ตรวจ ATK ทุกสัปดาห์ A= ATK พร้อมตรวจเสมอเมื่อใกล้ชิดคนติดเชื้อ หรือมีอาการทางเดินหายใจ โดยทั้ง 4 มาตรการดังกล่าว เป็นการเปิดเมืองปลอดภัย เปิดพื้นที่รับนักท่องเที่ยว ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การเปิดกิจกรรมแซนด์บ็อกซ์ (Sandbox) ในวันที่ 1 ธันวาคมที่จะถึงนี้ เราต้องพยายามทำให้ได้เพื่อผลักดันเศรษฐกิจในจังหวัด จากเดิมส่วนกลางมีเกณฑ์เปิดเมืองต้องมีผู้เข้ารับวัคซีน 50 % ขึ้นไป ภายหลังเปลี่ยนมาเป็นภาพรวมทั้งจังหวัด 70 % กิจกรรมแซนด์บ็อกซ์จึงมีอันต้องชะลอการเปิดไว้ก่อน เพื่อให้เป็นไปตามที่ส่วนกลางกำหนด ต้องกระตุ้นประชาชนที่ยังไม่ได้รับวัคซีนฉีดเข็มแรกให้ได้ 70 % ภายในวันที่ 31 ธันวาคมนี้ ส่วนงานเคาท์ดาวน์
( Countdown) เทศกาลปีใหม่ 2565 จะดำเนินกิจกรรมได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ ณ ปัจจุบัน
ด้านข้อมูลการฉีดวัคซีนสะสม (วันที่ 7 เมษายน-23 พฤศจิกายน 64) เข็มแรกฉีดไปแล้ว 311,283 ราย เทียบกับประชากรตามทะเบียนราษฎร์ 42.94 % แต่มีประชากรตามสิทธิ์เข้ารับการฉีดหรือวอล์คอิน (Walk in) จะมีตัวเลขถึง 50.21 % ขณะที่เป้าหมาย 70 % คงเหลือประชากรตามทะเบียนราษฎร์จำนวน 196,120 คน หากเทียบเท่าประชากรตามสิทธิ์การรักษาฯอยู่ที่ 122,671 คน ก็จะถึงเกณฑ์ตามที่ส่วนกลางกำหนด
สืบเนื่องจาก นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคฯ กระทรวงสาธารณสุข ออกมาเปิดเผยจังหวัดที่มีประชาชนเข้ารับวัคซีนน้อยที่สุด จำนวน 10 จังหวัด ได้แก่ 1.นครพนม 2.หนองบัวลำภู 3.บึงกาฬ 4.สกลนคร 5.กาฬสินธุ์ 6.ยโสธร 7.แม่ฮ่องสอน 8.สุรินทร์ 9.ร้อยเอ็ด และ 10.ชัยภูมิ โดยอาจมีปัจจัยอยู่หลายสาเหตุ เช่น คิดว่าอยู่ในพื้นที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิดไม่รุนแรง จึงมีความเสี่ยงต่ำหรือเหตุผลส่วนตัวอื่นๆ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขตำบล อำเภอ และจังหวัด หรืออาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน จึงเร่งลงพื้นที่ให้ความรู้ประชาสัมพันธ์แนะนำประชาชน เพื่อสร้างความเชื่อมันในการเข้ารับการฉีดวัคซีน พร้อมเปิดโอเพ่นให้ประชาชน walk-in ได้ที่โรงพยาบาล และ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ทุกแห่ง สามารถเลือกฉีดได้ตามสูตรไขว้ คือเข็มแรกเลือกซิโนฺแวฺคหรือแอฺสฺตฺร้าเซฺเนฺก้า เข็มสองเลือกแอฺสฺตฺร้าเซฺเนฺก้าหรือไฟฺเซฺอฺร์
จังหวัดนครพนมได้เปิดมหกรรมฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด โดยจัดคิกออฟพร้อมกันทั่วทั้งจังหวัด 12 อำเภอ เป้าหมายให้ประชาชนได้รับวัคซีนเข็มแรกจำนวน 10,000 คน หวังขยับอันดับให้อยู่ในเกณฑ์ 70 % ในจำนวนประชากร 7 แสนกว่าคน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ของจังหวัด และเป็นผลดีในการจัดกิจกรรมกลางแจ้งที่จะเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลปีใหม่อีกด้วย หากการเข้ารับวัคซีนไม่ได้ตามเกณฑ์ที่กำหนด กิจกรรมงานต่างๆที่วางไว้อาจมีปัญหาถึงขั้นยกเลิกทั้งหมด
โดยทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม มีรถแห่ประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มแรก ซึ่งในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองนครพนมมีจุดที่ประชาชน 2 จุดด้วยกัน 1.โรงเรียนนครพนมวิทยาคม 2.โรงพยาบาลนครพนม นอกเขตได้จัด รพ.สต.อำเภอเมืองนครพนมไว้ทุกแห่ง ส่วนต่างอำเภอติดต่อสอบถามได้ที่สายด่วนวัคซีนโควิดของแต่ละอำเภอ ซึ่งการฉีดวัคซีนในวันดังกล่าวนี้ทาง สสจ.ฯจะออกใบรับวัคซีน 100 % สำหรับผู้ประกอบและพนักงานที่ได้รับวัคซีนครบ ส่วนประชาชนที่พาญาติเข้ารับวัคซีนเข็มแรกจะได้บูสเตอร์วัคซีนเข็มที่ 3 เป็นรางวัลแทนคำขอบคุณ ขณะที่ต่างอำเภออาจจะมีของชำร่วยให้ติดมือกลับบ้านเพิ่มเติม
ทั้งนี้ นพ.ปรีดา วรหาร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว ว่า “วันนี้เป็นกิจกรรมรณรงค์การฉีดวัคซีน ในภาพรวมของจังหวัดนครพนมตั้งเป้าว่าจะมีการฉีดวัคซีนโดยเฉพาะเข็ม 1 เกินหนึ่งหมื่นราย ซึ่งในวันนี้อำเภอเมืองก็ได้จัดสถานที่สำหรับบริการฉีดวัคซีนที่โรงเรียนนครพนมวิทยาคม ก็จะมีในส่วนของนักเรียนที่เป็นเป้าหมายในการรับวัคซีนที่จะมารับไฟเซอร์เข็ม 2 ประมาณ 500 คน ที่เหลือก็จะเป็นในส่วนของประชาชนทั่วไปและนักเรียนที่เปลี่ยนใจมารับวัคซีน และนอกจากนี้ยังมีบริการฉีดวัคซีนในจุดอื่นๆของอำเภอเมืองอีก 6 แห่ง โดยมีเป้าหมายของอำเภอเมืองอย่างน้อย 1,000 คน นอกจากจะมีกิจกรรมในการฉีดวัคซีนแล้วยังมีการมอบใบประกาศเกียรติคุณให้กับสถานประกอบการ ห้างร้านที่บุคลากรได้รับวัคซีนครบ 100% ซึ่งมีสถานประกอบการที่ผ่านการประเมินในตอนนี้ทั้งสิ้น 30 แห่ง กิจกรรมนี้ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะกระตุ้นให้ภาคเอกชนห้างร้านต่างๆสนใจที่จะเข้ารับการฉีดวัคซีนมากขึ้น ซึ่งจะเป็นการสร้างความปลอดภัยให้กับผู้เข้ารับบริการอีกด้วย แต่สิ่งที่เราต้องการในขณะนี้ก็คือกลุ่มประชาชนทั่วไปที่ยังลังเล ก็อยากจะขอเชิญชวนเข้ามารับการฉีดวัคซีนกันทุกคน ไม่ว่าจะเป็นบุคคลที่มีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดนครพนมหรือคนต่างจังหวัดที่เดินทางมาพักอาศัยอยู่ที่จังหวัดนครพนมก็สามารถที่จะเข้ามาขอรับวัคซีนได้เช่นเดียวกัน”
ด้านมาตรการเข้า-ออกจังหวัดนครพนม ตามประกาศคำสั่งใหม่ลงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2564 สามารถเดินทางเข้ามาได้แต่ต้องปฏิบัติดังนี้ คือ เดินทางมาจาก 6 จังหวัดพื้นที่เสี่ยง 1.ตาก 2.นครศรีธรรมราช 3.นราธิวาส 4.ปัตตานี 5.ยะลา และ 6.สงขลา ต้องรายงานตัวตรวจ swab หาเชื้อฟรีผลเป็นลบไม่ต้องกักตัว กรณีไม่ต้องตรวจ swab ถ้าแสดงหลักฐานผลตรวจ ATK หรือ RT-PCR ไม่เกิน 72 ชม. ให้แสดงหลักฐานได้รับวัคซีนครบเกณฑ์ หรือสูตรไขว้โดยใช้หลักฐานการฉีดวัคซีนที่ออกจากสถานพยาบาล.
Discussion about this post