เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2564 เวลา 14.00 น. ที่ห้องประชุมพระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดช ศาลากลางจังหวัดน่าน พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี
ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) โดยมี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา , นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ , นายวิรัช รัตนเศรฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ , นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ , นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. นายจีรเดช ศรีวิราช ส.ส.เขต 3 พะเยา ลงพื้นที่ติดตามการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล และการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่จังหวัดน่าน โดยมี นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน พร้อมด้วยนายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ
โดยจังหวัดน่านได้นำเสนอผลการขับเคลื่อน นโยบายรัฐบาลในพื้นที่การบริหารจัดการน้ำ แผนงาน โครงการเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำแล้ง การเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมและการ ก่อสร้างสะพานปากนาย การสร้างอ่างเก็บน้ำ การพัฒนา เส้นทางคมนาคมเชื่อมโยงน่าน พะเยา เชียงราย และการก่อสร้างสะพานปากนาย เชื่อมจังหวัดน่านกับจังหวัดอุตรดิตถ์ จะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถด้านการ แข่งขัน ให้กับเศรษฐกิจของจังหวัดน่าน และกลุ่มจังหวัดภาคเหนือ ตอบโจทก์ การพัฒนา ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนปฏิรูปประเทศ
ทั้งนี้พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บูรณาการความร่วมมือ ดำเนินการ อาทิ มอบหมายให้กรมชลประทาน เร่งรัดการแก้ไขผลการศึกษา EIA ของอ่างเก็บน้ำน้ำกอน อ่างเก็บน้ำน้ำรี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการผู้ชำนาญการ และสำหรับอ่างเก็บน้ำห้วยจ๊วกอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่ศึกษา IEE แล้วนั้น ให้กรมชลประทานเร่งรัดเสนอต่อ คณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณาต่อไป มอบหมายให้ สทนช. นำโครงการแก้ไขปัญหาน้ำแล้ง ในระยะยาวบรรจุในแผนแม่บทลุ่มน้ำเพื่อเสนอ กนช. พิจารณาให้การสนับสนุน งบประมาณต่อไป กรมทางหลวง เร่งรัดศึกษา EIA การก่อสร้างเส้นทางเชื่อมโยง น่าน-พะเยา และการก่อสร้างสะพานและถนนเส้นทางปากนายโดยเร็ว เพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้าน การแข่งขันของประเทศ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 นี้ ขอให้จังหวัดได้พิจารณาเสนอโครงการรายการ เงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ในอำนาจของรองนายกรัฐมนตรีโดยเร็ว ทั้งนี้ ให้คัดเลือกโครงการที่แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่อย่างแท้จริง โดยเฉพาะโครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้ง
พร้อมกันนี้ได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานนำผลงาน การขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลไป ประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนรับรู้ รับทราบ เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง เกิดความสมานฉันท์ในพื้นที่ต่อไป
Discussion about this post