เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2564 เวลาประมาณ 15.00 น.ได้เกิดเหตุฝายกั้นน้ำล้นคลองบางริ้น ม.2 ต.บางริ้น อ.เมือง จ.ระนอง ซึ่งอยู่ในความดูแลของกรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แตกเนื่องจากช่วงหลายวันที่ผ่านมามีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยสภาพของตัวฝายด้านฝั่งซาย โดนของแรกของนำซัดเสียหายไปจำนวน 2 ช่องกันน้ำ ทำให้น้ำที่ถูกกักไว้หลาสู่ก่อนจากนั้นจะไหลลงสู่ทะเลทั้งหมด โชคดีขณะเกิดเหตุไม่มีประชาชนได้รับบาดเจ็บ
นายสาว อรพร งามพินิจ อยู่บ้านเลขที่ 169/28 ม.2 ต.บางริ้น ผู้ที่เห็นเหตุการณ์เล่าให้ฟังว่า บ้านของตนอยู่ติดกับตัวฝายมีถนนกั้นกลาง ขณะเกิดเหตุตนเองนั่งอยู่ในบ้าน ช่วงนั้นมีฝนตกลงมา ตนเองได้ยินเสียงดังเปรี๊ยะๆ แต่ยังไม่รู้ว่าเป้นเสียงอะไรจึงเดินออกมาที่หน้าบ้าน จากนั้นเดินข้ามถนนไปดูยังตัวฝายพบ ตัวฝายกั้นน้ำกำลังพังทลายลงมา ช่วงนั้นตกใจมากที่เห็นเหตุดังกล่าว โดยฝายน้ำล้นแห่งนี้ที่รู้หลัก ๆในการนำไปใช้ประโยชย์คือทำนำประปาในพื้นที่ตำบลบางริ้น และเขตตัวเมืองระนอง ด้านล่างของฝายกั้นน้ำจะเป้นคลองน้ำทะเลจะขึ้นถึง ไม่บ้านเรือประชนที่อยู่ด้านล่างของฝ่าย น้ำที่ไหลจะไหลลงคลองจากนั้นจะไหลลงทะเล
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามชาวบ้านที่กำลังจับกลุ่มคุยกันถึงสาเหตุที่ฝายกั้นน้ำแตก กลุ่มชาวบ้านให้ข้อมูลแต่มีข้อแม้อย่าถ่ายภาพไม่อยากมีปัญหากับเจ้าหน้าที่ โดยการวิเคราะห์ของชาวบ้านที่มีตัวบ้านอยู่ติดกับตัวฝายบอกว่า ฝ่ายแห่งที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างซ่อมแซม ที่ผ่านมาในขณะที่กำลังก่อสร้างแต่ผู้รับเหมาทิ้งงานจึงต้องหาผู้รับเหมารายใหม่ด้วยงาบประมาณ 20 ล้าน
ที่ผ่านมาเมื่อมีน้ำจำนวนมากจะต้องมีการเปิดประตูระบายน้ำทั้ง 2 บานแต่ครั้งนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่มาเปิด ส่วนจุดที่เกิดการแตกชาวบ้านรู้ว่าด้านล่างมีโพลงขนาดใหญ่ที่ถูกน้ำกัดเซาะที่กำลังรอการซ่อมแซม แต่ยังไม่ทันได้ซ่อมก็มีพังเพราะปริมาณน้ำมากบวกกับความแรงของน้ำ ชาวบ้านก้ยังไม่รู้ว่าเจ้าหน้าที่จะดำเนินการอย่างไรคงต้องรอฟังข่าวอีกครั้ง ส่วนเรื่องนำในฝายที่ปะปาระนองใช้เป็นน้ำดิบในการทำปะปาคิดว่าคงไม่กระทบมากนักเนื่องจากยังมีแหล่งน้ำดิบที่ปะปาใช้อยู่อีกหลายแห่ง ส่วนผลกระทบกับชาวบ้านในพื้นที่โดยตรงคงไม่มีเนื่องจากก่อนที่จะมีฝายชาวบ้านก็อยู่กันตรงนี้ดำเนินชีวิตตามปกติ.
Discussion about this post