พ่อเมืองนครพนม พร้อมคณะสำรวจถ้ำนาคี “พญานาค 9 เศียร” หนุนเป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติเชิงอนุรักษ์

ที่อุทยานแห่งชาติภูลังกา กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช บ้านนาโพธิ์ หมู่ 3 ต.ไผ่ล้อม อ.บ้านแพง จ.นครพนม นายพันธ์ยศ กีรติพงศ์ศักดา (นักวิชาการป่าไม้วิชาการ) หัวหน้าอุทยานฯ พร้อมเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูลังกา ให้การต้อนรับ นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง/ส.ส.นครพนมเขต 1 พรรคภูมิใจไทย นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พล.ร.ต.สมบัติ จูถนอม ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำ นาง
กาญจนี รุจนเสรี นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม นายธนพัต ทีฆธนานนท์ ประธานหอการค้าจังหวัดนครพนม พร้อมคณะเดินขึ้นสำรวจและเปิดตัว“ถ้ำนาคี” หรือพญานาค 9 เศียร แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของอุทยานแห่งชาติภูลังกาอย่างเป็นทางการ โดยเป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ทั้งสัตว์ป่าและพันธุ์พืช

ทั้งนี้ ถ้ำนาคีได้มีการค้นพบความอัศจรรย์ของหินภูเขา ที่มีรูปร่างคล้ายเกล็ดงู ไม่แตกต่างจากถ้ำนาคาที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่อยู่ทางฝั่ง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ ส่วนถ้ำนาคี ที่คณะรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง เดินขึ้นสำรวจอยู่ทางฝั่ง อ.บ้านแพง จ.นครพนม แต่เป็นเทือกเขาลูกเดียวกัน สามารถเดินบนยอดเขาไปชมความงามของสองถ้ำได้ โดยมีระยะทางห่างราว 7 กิโลเมตร
เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูลังกา เปิดเผยว่าถ้ำนาคีมีหินคล้ายหัวพญานาค นับได้มีถึง 9 เศียร นอกจากนี้ยังมีหินที่คล้ายงูจงอางแผ่พังพาน และมีหินเหมือนเกล็ดงูขนาดใหญ่ขดคดเคี้ยวไปมา จึงได้ตั้งชื่อถ้ำแห่งนี้ว่าถ้ำนาคี ที่สำคัญยังมีความสวยงามไม่แพ้ถ้ำนาคาเลย อีกทั้งยังเชื่อมโยงกับตำนานเรื่องเล่าความเชื่อของถ้ำทั้งสองแห่งนี้ คือพญานาคหรืองูยักษ์ที่ถูกสาปให้กลายเป็นหิน เพราะมีรูปร่างลักษณะเป็นงูยักษ์มีเกล็ดหินสวยงามลงตัว คดเคี้ยวไปตามหุบเขา จึงกลายเป็นที่สนใจของประชาชน นักท่องเที่ยว อีกทั้งถ้ำนาคียังมีเส้นทางไม่ไกล เดินเท้าจากที่ตั้งอุทยานแห่งชาติภูลังกาประมาณ 2 กิโลเมตรเท่านั้น แต่เป็นเส้นทางผจญภัยเดินเลียบเลาะไปตามป่าเขา และไต่เชือก ปีนบันไดลิง ข้ามสะพานเหล็ก ฯลฯ

โดยนักท่องเที่ยวจะได้ผ่านสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติประมาณ 9 จุด ได้แก่ วังนาคี ผานาคี หินสาลึคึ ลานธรรม (หัวภู) หินพญาศรีสัตตนาคราช ไข่พญานาค หินโลมา เจดีย์กองข้าวศรีบุญเนาว์ และเศียรพญานาค ตลอดเส้นทางยังได้ชื่นชมความสวยงามของธรรมชาติดอกไม้ป่านานาพันธุ์เป็นของแถมอีกด้วย

คณะสำรวจเดินไปถึงหัวนาคีที่ 6 ถือว่าเป็นจุดเช็คอินสำคัญ เพราะนักท่องเที่ยวจะเข้าคิวต่อแถวยาวนับร้อยเมตรเพื่อไปถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ก่อนปีนบันไดเหล็กขึ้นไปถ้ำนาคี ที่ผนังถ้ำมีลวดลายคล้ายกับเกล็ดพญานาค และเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสายธรรม-สายพญานาค โดยถ้ำนาคีนั้นมีลักษณะเป็นเพิงหินขนาดใหญ่ มีพื้นผิวแตกลายซึ่งเกิดจากปรากฏการณ์ธรรมชาติซันแครก (sun crack) ทำให้มีลวดลายคล้ายเกล็ดของพญานาคขนาดใหญ่กำลังนอนขดตัว โดยมีมอสสีเขียวที่ขึ้นตามโขดหิน ทำให้ลวดลายซันแครกเด่นชัดขึ้นไปอีก ภายในถ้ำเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปนาคปรก เนื้อหยกสีเขียว เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นักเดินทางมักเข้ามากราบไหว้ทุกครั้งที่มาเยือนถ้ำแห่งนี้

หลังจากที่ชมความน่าพิศวงของถ้ำนาคีแล้ว ห่างออกไปประมาณ 200 เมตรก็จะถึงผานาคีจุดชมวิวสวย เห็นแม่น้ำโขงและป่าเขาที่ล้อมรอบแบบพาโนรามา พร้อมกับสูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอด ดังนั้นการเที่ยวชมถ้ำนาคีถ้าไม่ได้ไปยืนรับลมเย็นๆบริเวณผานาคีถือว่าไปไม่สุดเส้นทาง

นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า หลังเดินสำรวจถ้ำนาคีแล้ว จากนี้ก็จะร่วมกันกับรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ผลักดันให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยได้รับรายงานจากหัวหน้าอุทยานว่าโดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวนี้ มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมวันละประมาณ 2 พันคนขึ้นไป และยังเป็นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทรัพยากรของทางจังหวัดไปในตัวด้วย ขณะเดียวกันก็เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว พี่น้องประชาชนก็จะมีรายได้จากการท่องเที่ยวนี้ด้วย

นายศุภชัย โพธิ์สุ กล่าวว่า ฐานะตนอยู่ฝ่ายการเมืองจะร่วมกันในการขับเคลื่อนในการพัฒนา โปรโมทแหล่งท่องเที่ยวซึ่งเป็นทรัพยากรธรรมชาติอันทรงคุณค่ายิ่งของจังหวัดนครพนม ตนเองในฐานะประธานคณะกรรมการที่ปรึกษา อุทยานแห่งชาติภูลังกาก็มีการประชุมกันทุกเดือน มาเว้นระยะตอนโควิดระบาดอย่างรุนแรง ซึ่งในการประชุมก็จะพูดถึงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว เพราะปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากขึ้น จึงต้องมีแผนในการรับมือให้นักท่องเที่ยวได้รับความสะดวกสบายด้านการบริการต่างๆ ตอนนี้ก็ลงมือทำไปเยอะแล้วเหมือนกัน ถ้านักท่องเที่ยวอยากได้อะไรเพิ่มเติมก็พร้อมจะแก้ไขปรับปรุง.