วันนี้ 8 ธันวาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ ห้องประชุม 1 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และผู้อำนวยการศูนย์บูรณาการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.ส่วนหน้า)เป็นประธาน“ประชุมติดตามผลการดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และผลการฉีดวัคซีน รวมถึงแนวทางการเตรียมความพร้อมเปิดสถานศึกษาทั้งในระบบและนอกระบบในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส สตูลและ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อกำกับดูแลประสานงานขับเคลื่อนเร่งรัดและติดตามผลการปฏิบัติงานของหน่วยงานทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการเตรียมความพร้อมเปิดสถานศึกษา โดยมี พลตรีปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ศูนย์ประสานงานและบริหารสถานศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้แทนกลุ่มศึกษาธิการจังหวัด 3 จชต. สมาคมสมาพันธ์โรงเรียนเอกชนภาคใต้ตลอดจนสมาคมสถาบันการศึกษาปอเนาะ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้าร่วมหารือบูรณาการแนวทางการเปิดเรียนสถานศึกษาในพื้นที่จีงหวัเชายแดนภาคใต้
พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และผู้อำนวยการศูนย์บูรณาการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.ส่วนหน้า) กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญด้านการศึกษาอย่างยิ่ง ครั้งนี้จึงตั้งใจมาพบปะหารือกับหน่วยงานทางการศึกษาทั้งในระบบและนอกระบบ เพื่อมารับทราบข้อมูล ตลอดจนปัญหา ข้อขัดข้องต่างๆ เพื่อเตรียมเสนอ ศบค.ใหญ่ได้พิจารณา ในวันที่ 13 ธ.ค.นี้ โดยสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในตอนนี้ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ยังคงเป็นไปอย่างช้าๆ ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ ในจังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส มีแนวโน้มอยู่ในช่วงขาลง ขณะที่ สงขลาและสตูลยอดยังทรงอยู่ ส่วนการฉีดวัคซีนก็มีความครอบคลุมมากขึ้น และจากการหารือกับหน่วยงานทางการศึกษาในพื้นที่ เพื่อเร่งรัดให้มีการเปิดเรียนแบบ on site นั้น ขณะนี้ในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีโรงเรียนกว่า 5 พันแห่ง สามารถเปิดเรียนได้เพียง 104 แห่งเท่านั้น ที่ประชุมจึงได้หารือเสนอให้จัดทำโมเดลปรับหลักเกณฑ์การเปิดเรียนOn Site ของเฉพาะพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยคำนึงถึงวิถีชีวิตของประชาชน และให้ตรงกับหลักเกณฑ์ของกระทรวงศึกษาศึกษาธิการ ที่กำหนดเป้าหมายให้มีสัดส่วนผู้ได้รับวัคซีน โควิด-19 แบ่งเป็นสัดส่วนบุคคลากรทางการศึกษา 85% นักเรียน 85% ชุมชนโดยรอบ 70% หากผ่านการประเมิน ให้ดำเนินการเปิดเรียนในบางพื้นที่ เปิดบางโรงเรียน และเปิดเรียนบางชั้นเรียนก่อนให้ได้มากที่สุด ภายในกลางเดือนธันวาคมนี้ โดยเฉพาะนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที6ที่จะต้องเตรียมความพร้อมสอบเข้าเรียนในระดับมัธยมศึกษาและมหาวิทยาลัย และหากได้รับการพิจารณา คาดว่าจะสามารถเปิดภาคเรียนพร้อมกันทั้งหมดได้ภายในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ปีหน้า
สำหรับภาพรวมการเปิดเรียนของสถานศึกษาทั้ง 5 จังหวัด มีโรงเรียนทั้งหมด 5,528 โรงเรียน มีโรงเรียนที่สามารถเปิด On Site ได้แล้วจำนวน 104 โรงเรียน แบ่งเป็นจังหวัดสตูล 66 โรงเรียน จังหวัดนราธิวาส 36 โรงเรียน จังหวัดสงขลา 12 โรงเรียน จังหวัดยะลา 3 โรงเรียนและจังหวัดปัตตานีรวมถึงโรงเรียนอื่นๆที่ไม่สามารถเปิดเรียนได้จำนวน 5,411 โรงเรียน.
Discussion about this post