ไม่สนกฎหมาน ยังขนแรงงานต่อเนื่องค่าหัวคนละหมื่นห้าคาดมีเจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่คอยดูแลให้

เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 12 ธันวาคม 2564 ทหารชุดกองร้อยทหารราบที่ 2521 กองกำลังเทพสตรี ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวในพื้นที่ว่า มีชาวเมียนมาหลบหนีข้ามมาฝั่งประเทศไทยโดยเรือหางยาว บริเวณ บ.หลุมพอล่าง ม.10 ต.ปากจั่น อ.กระบุรี จ.ระนองเมื่อ เจ้าหน้าที่ไปถึง สังเกตเห็นกลุ่มคนนั่งอยู่บริเวณดังกล่าว (เป็นสวนยางพาราติดลำน้ำกระบุรี)เป็นพื้นที่มีการลักลอบขนยางพาราและแรงงานต่างด้าวหลายครั้ง เมื่อไปถึงเจ้าจึงแสดงตัวเข้าตรวจสอบพบชาวเมียนมา จำนวน 7 คน ซึ่งพื้นดังกล่าวมีหน่วยงานความั่นคงระดับชายแดนและหน่วยงานในพื้นที่ทั้งขาเข้า-ขาออกจากพื้นที่ดังกล่าวคอยดูแลพื้นที่ในการป้องกันการกระทำผิดกฎหมายทุกประเภท

จากการสอบถามชาวเมียนมาทั้งหมดให้การว่า เดินทางมาจาก เมืองเมาะลำใย เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.64 โดยรถตู้ จำนวน 1 คัน เป็นเวลา 2 วัน ก่อนมาพักที่ บ.หลุมพอยี อ.เขม่าจี จว.เกาะสองฯ 2 วัน และข้ามมาด้วยเรือหางยาว เมื่อเวลาประมาณ 01.30 น. มาขึ้นฝั่งประเทศไทยบริเวณสวนยางพาราในพื้นที่ บ.หลุมพอล่าง ม.10 ต.ปากจั่น อ.กระบุรีฯ โดยนั่งพักคอยรอนายหน้ามารับตัว เพื่อจะเดินทางต่อไปยัง อ.หลังสวน จ.ระนอง และ จ.สุราษฎร์ธานี เสียค่านายหน้าเป็นเงินคนละ 15,000 บาทซึ่งเป้นเรื่องที่น่าสงสัยว่าจุดพื้นที่ดังกล่าวและพื้นที่ใกล้เคียงมีหน่วยงานความมั่นคงคอยดูแลมีนักการเมืองและราชการท้องถิ่นคอยดูแล แต่ยังปล่อยให้มีการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ขัดกับนดยบายของนายยกรัฐมนตรีที่มุ่งเน้นแก้ปัญหาเรื่องการลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายในพื้นที่จังหวัดระนอง ซึ่งเป้นเมืองชายแดน

จากนั้น จนท.จึงดำเนินการตรวจคัดกรองตามมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และควบคุมตัวส่ง สภ.ปกากจั่น ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.