รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี เยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วม

เมื่อเวลา 11:00 น วันที่ 13 ธ.ค.64 พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ได้เดินทางไปยัง หอประชุมเทศบาลตำบลท่าชนะ อำเภอท่าชนะ จ. สุราษฎร์ธานี เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจพร้อมมอบถุงยังชีพให้กับผู้ประสบอุทกภัยพื้นที่อำเภอท่าชนะจำนวน 200 ครอบครัว โดยมี พลโทเกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 , นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี หัวหน้าส่วนราชาการ พี่น้องประชาชน และ ผู้เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับ นอกจากนี้ยังมีกลุ่มชาวบ้านมาให้กำลังใจ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมทั้งชูป้ายขอบคุณที่ดูแลประชาชน และ ทำให้ปาล์มน้ำมันราคาดี โดยมีข้อความว่า สาวท่าชนะรักลุงป้อม ขอบคุณลุงป้อม ที่ทำให้ราคาปาล์มดี การลงพื้นที่ในครั้งนี้รองนายกรัฐมนตรี ได้พูดคุยกับประชาชนและผู้ที่มารอต้อนรับว่า รัฐบาลห่วงใยประชาชนทุกคนที่ประสบกับปัญหาต่าง ๆ ซึ่งการลงพื้นที่ในครั้งนี้เพื่อมาดูแลความเดือดร้อนของประชาชนหลังประสบภัยน้ำท่วม ในการนี้ รองนายกรัฐมนตรีได้มอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมโดยมอบผ่านตังแทนจำนวน 12 ชุด ก่อนที่จะมอบหมาย ให้หัวหน้าส่วนราชการ ได้มอบถุงยังชีพส่วนที่เหลือให้ผู้ประสบอุทกภัยจำนวน 200 ครัวเรือน

พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า รัฐบาลมีความห่วงใยในความเดือดร้อนของผู้ประสบอุทกภัยพื้นที่ภาคใต้และพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยเฉพาะชาวอำเภอท่าชนะ ยืนยันจะให้ความช่วยเหลือและเยียวยาให้ครอบคลุมอย่างดีที่สุด อย่างไรก็ตาม ขอย้ำเตือนประชาชนให้เฝ้าระวัง อีกระยะหนึ่ง ต่อข้อถามที่ว่า เกี่ยวกับเรื่องราคาปาล์มที่มีราคาดีในขณะนี้นั้นรองนายกรัฐมนตรีกล่าวย้ำว่า ทางรัฐบาล ได้ดำเนินการเรื่องตามมาโดยตลอดและรู้สึกดีใจ ที่ราคาปาล์มในในปัจจุบัน ดีขึ้นเกษตรกรชาวสวนปาล์มมีรายได้มีฐานะที่ดีขึ้น

สำหรับ สถานการณ์อุทกภัยในอำเภอท่าชนะ ตั้งแต่วันที่ 13 พฤศจิกายน – 3 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา พื้นที่อำเภอท่าชนะ ได้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก จำนวน 4ครั้ง โดยเฉพาะในพื้นที่เศรษฐกิจ บริเวณตลาดเทศบาลตำบลท่าชนะ ซึ่งความเสียหายในอำเภอท่าชนะนั้นมีจำนวนผู้ประสบอุทกภัย ในพื้นที่ 6 ตำบล 82หมู่บ้าน 2,500 ครัวเรือน (ไม่มีผู้เสียชีวิต/ไม่มีผู้บาดเจ็บ) ด้านการเกษตร พื้นที่การเกษตร (พืชสวน)3,000 ไร่ ด้านประมง เกษตรกรได้รับความเสียหาย จำนวน 46ราย บ่อปลา 53 บ่อ (32.25ไร่) ด้านปศุสัตว์ 2ราย ด้านสาธารณ์ประโยชน์ ถนน 40 สายคอสะพาน 5แห่ง ท่อระบายน้ำ 7แห่ง การคมนาคมถนนทุกสายรถสามารถสัญจรได้ มูลค่าความเสียหาย เบื้องต้นประมาณ 20ล้านบาท ทั้งนี้ได้รับความช่วยเหลือจาก สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยกรมชลประทาน ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ และเครื่องผลักดันน้ำ เพื่อระบายน้ำลงสู่ทะเลที่คลองท่าม่วงมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย มอบถุงยังชีพพระราชทาน 50 ชุด เหล่ากาขาดจังหวัดสุราษฎร์ธานี จำนวน 50 ชุด ธนาคารเพื่อการเกษตรสาขาท่าชนะ จำนวน 80 ชุด สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี จำนวน 50 ชุด หน่วยงานอื่นๆ จากภาครัฐเอกชนแจกจ่ายให้ความช่วยเหลือ 500 ชุด พร้อมระดมสรรพกำลัง เครื่องมือ อุปกรณ์ เครื่องจักร ยุทโธปกรณ์ กำลังพล จากทุกภาคส่วนประกอบด้วยที่ทำการปกครองอำเภอท่าชนะ ส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ พลเรือน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มูลนิธิอาสาสมัครต่าง รวมทั้งจิตอาสา ได้เข้าให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยเบื้องต้นแล้ว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งดำเนินการสำรวจความเสียหาย ครอบคลุมทุกด้าน เพื่อใช้เงินทดรองราชการ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ กรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2563 ของระเบียบกระทรวงการคลัง ต่อไป