โดนใจสายเขียว !! เพชรบุรีพร้อมปลูกกัญชางวดแรก ใช้ประโยชน์ทางการแพทย์

เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม นายณัฐวุฒิ เพ็ชรพรหมศร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี นายวิรัช พันธุมะผล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย นายประศาสก์ กาญจนบัตร ประธานวิสาหกิจชุมชนสามภู นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรี หัวหน้าส่วนราชการ ร่วมประชุมคณะกรรมการจังหวัดเพื่อพิจารณา การขออนุญาตผลิตกัญชาและกัญชง ลงพื้นที่ สถานที่ปลูกกัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ ตามโครงการวิสาหกิจชุมชนสามภู ร่วมกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหนองศาลา ณ ห้องประชุม อบต.หนองศาลา และพื้นที่โรงเรือน หมู่ที่ 6 ตำบลหนองศาลา อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่าพื้นฐานเดิมเพชรบุรีเคยเป็นแหล่งผลิตกัญชาระดับประเทศมาแล้ว เมื่อปี 2481 กัญชาเป็นพืชเศรษฐกิจตัวหนึ่งของจังหวัดเพชรบุรี แต่หลังจากมีกฎหมาย กัญชาเป็นยาเสพติดเลยเลิกการผลิตไป ซึ่งเป็นกัญชาพื้นเมืองสายพันธุ์ตะนาวศรี และเกษตรกรมีองค์ความรู้สามารถที่จะปลูกได้ และจากที่มีการปลดล๊อกกัญชา ไม่เป็นยาเสพติด และเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ ทุกฝ่ายเข้ามาช่วยสนับสนุนส่งเสริมให้เป็นวิสาหกิจชุมชนแห่งแรกของจังหวัดเพชรบุรีที่ได้รับอนุญาตถูกต้องตามกฎหมายให้ปลูกกัญชาได้ ซึ่งจะพัฒนาให้เป็นกัญชาด้านการแพทย์ต่อไป พร้อมทั้งเสริมสร้างความเป็นเมืองสร้างสรรค์ทางด้านอาหาร จะได้มีการพัฒนานำกัญชาให้เป็นส่วนผสมในการสร้างนวัตกรรมด้านทางการแพทย์และทางอาหารด้วย และพัฒนาต่อเนื่องเป็นศาสตร์ใหม่ ไม่ใช่การปลูกแบบดั้งเดิมแต่จะปลูกในโรงเรือนควบคุมอุณหภูมิ เป็นศูนย์การเรียนรู้กระตุ้นการท่องเที่ยวทางอ้อมอีกด้วย

นายประศาสก์ กาญจนบัตร ประธานวิสาหกิจชุมชนสามภูกล่าวว่าผลผลิตกัญชาที่บริสุทธิ์ปราศจากสารพิษ จะส่งให้กรมการแพทย์แผนไทยกระทรวงสาธารณสุขเพื่อนำไปผลิตเป็นยารักษาโรคเป็นประโยชน์กับประชาชนทั้งประเทศ และได้ช่วยเหลือให้เกษตรกรมีโอกาสประกอบวิสาหกิจชุมชน อันจะเป็นประโยชน์แก่ชุมชนและนับเป็นตัวอย่างหนึ่งของการพัฒนาชาวบ้านกลุ่มแรกของเพชรบุรี

ทางด้านนายวิรัช พันธุมะผล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า การปลูกกัญชาได้โดยชอบด้วยกฎหมาย นับเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจ และปากท้องของประชาชน เป็นการส่งเสริมอาชีพและรักษาพืชพันธุ์ดั้งเดิมของจังหวัดเพชรบุรี การจะได้เริ่มต้นการปลูกกัญชาเพื่อนำความเจริญมาสู่ชาวเพชรบุรีของวิสาหกิจชุมชนแห่งนี้ จะเป็นแหล่งเริ่มต้นที่ดี เป็นแหล่งเรียนรู้ของประชาชน ส่งเสริมการท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้กับประชาชน งวดแรกจะปลูก 50 กระถาง 50 ต้น โดย 1 ปีจะสามารถปลูกได้ 100 ต้น.