วันที่19ธค.64 พบข้อความลง facebook ของคุณนภัสวรรณ นวนจันทร์ เจ้าตัวได้โพสต์ลง facebook ระบุข้อความว่า”ไอ้.สะ..ถ้าเกิดกับลูกมึ…จะรู้สึกยังไงไอ้…มึ…เล่นผิดคน กุจะร้องเรียนให้ถึงที่สุดรถไฟบอกไม่มีให้ลงทางซ้ายให้ลงแต่ฝั่งทางสถานีแล้วจะทำทางลงฝั่งซ้ายทำคะ..ไร เกิดเหตุประตูรถไฟหนีบหัวลูกกุอยู่แล้วยังปล่อยให้รถลากหนีบหัวลูกกุไป ไอ้…พูดจาน้องหมายังงี้ เดี๋ยวเจอกุ…สำหรับ
กุไม่ยอมแน่นอนเหตุเกิดที่สถานีรถไฟโคกมะกอกหัวลูกหนูโนหน่อย ดีนะยังไม่เป็นไรมาก หนูนึกสภาพไม่ออกแน่ๆไม่คิดว่าจะต้องมาเจอกับตัวเอง ได้แต่ยืนกอดลูกลูกร้องไห้หนูก็น้ำตาไหลตามตกใจทำอะไรไม่ถูกหนูแค้นมากตรงที่มันพูดออกมาว่า ไม่ได้ให้ลงทางซ้าย ต้องลงแต่ฟังทางสถานีปกติหนูก็ลงทางซ้ายทุกรอบเวลานั่งรถมาจากกทม.หลังจากมาถึงบ้านป้าแล้วหนูก็ขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปที่สถานีโคกมะกอก เพื่อไปถามไทยว่าคนขับรถขบวนนี้ชื่ออะไรทำไมคนลงไม่หมดทำไมปิดประตูไว นายสถานีตอบว่าฝั่งซ้ายไม่ได้ให้ให้ลงฝั่งนายสถานีเท่านั้น ก็เลยตอบกลับไปว่าปกติหนูก็ลงทางซ้ายตลอดนี่อะไรบอกแค่ว่าต้องให้ลงฝั่งสถานีเท่านั้นหนูก็เลยงง หนูก็เลยตอบกลับไปว่ายังไม่เจอกับลูกหลานตัวเองไงถึงทำแบบนี้พูดจาหมาๆแบบนี้หนูก็เลยเดินกลับขี่รถกลับบ้าน
วันนี้ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังสถานีรถไฟโคกมะกอกเพื่อสอบถามรายละเอียดจาก นส.ณัฐวรรณ นวนจันทร์โพสต์ลง facebook นส.นภัสวรรณ กล่าวว่าตนมีบ้านอยู่ ต.นาแขม อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี และกำลังนั่งรถไฟจากสถานีกบินทร์บุรีมาถามนายสถานีรถไฟโคกมะกอกโดยขึ้นรถไฟขบวนที่279กทม.-อรัญประเทศ ซึ่งเป็นขบวนที่เกิดเหตุช่วงเย็นวานนี้กระทั่งเวลา09.30 น.นส.นภัสวรรณ กับแม่และลูกสาววัย6ขวบเดินทางมายังสถานีรถไฟโคกมะกอก ได้สอบถามนายพรศักดิ์ เชื้อเพ็ชร์ นายสถานีรถไฟโคกมะกอกถึงปัญหาที่เกิดขึ้น นายสถานีรถไฟบอกว่าตามกฎของสถานีรถไฟได้ให้ผู้โดยสารขึ้นลงรถไฟฝั่งด้านสถานีฝั่งเดียวเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร ซึ่งเจ้าหน้าที่จะดูแลอย่างทั่วถึงป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ นส.นภัสวรรณถามว่าทุกครั้งผู้โดยสารที่โดยสารมากับขบวนรถไฟจากกรุงเทพฯมาถึงสถานีฯก็จะลงด้านซ้ายตนก็ใช้บริการสถานีรถไฟนี้ประจำเมื่อมาถึงสถานีก็จะลงประตูด้านซ้าย
เมื่อววานนี้ขณะขบวนรถไฟจอดตนกับแม่พร้อมลูกสาวแวะลงที่สถานีนี้เพื่อจะแวะเยี่ยมปู่ซึ่งมีบ้านอยู่บ้านโนนห้อมขณะรถไฟจอดได้รอให้ลูกสาวกับแม่เดินมาหาที่หน้าประตูทางลงขณะนั้นรถไฟกำลังจะออกประตูปิดลูกสาวจนทำอะไรไม่ถูกได้ตะโกนบอกเจ้าหน้าที่บนรถแล้วมีคนวิ่งมากดประตูเปิดออกประตูรถไฟจึงเปิดออก ได้แต่ยืนดูร้องไห้ด้วยความสงสารลูก รีบพาลูกกับแม่ไปไว้ที่บ้านปู่ดูแล้วออกมาสอบถามแต่ก็ไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน วันนี้ได้มาสอบถามทางสถานีแต่ก็ไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน อยากจะถามว่าทางสถานีรถไฟจะมีมาตรการและจะทำอย่างไรกับเรื่องที่เกิดขึ้นนายสถานีกล่าวขอโทษ นส.นภัสวรรณ น้ำตาว่าเรื่องนี้จะไม่จบแค่นี้ไม่ใช่แค่ขอโทษแล้วจบกันหากลูกสาวถูกประตูหนีบหัวจนได้รับบาดเจ็บมากกว่านี้ใครจะรับผิดชอบ
นายพรศักดิ์ เชื้อเพ็ชร นายสถานีกล่าวว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดของตนเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่อยู่บนรถปล่อยให้ผู้โดยสารขึ้นลงตนมีหน้าที่อำนวยการเดินรถถ้าเห็นผู้โดยสารลงหมดแล้วก็จะยกธงเขียวขึ้นให้รถไฟออกจากสถานีได้สิ่งที่เกิดขึ้นตนขอโทษแต่ผู้โดยสารไม่พอใจไม่อยากให้เรื่องจบแต่เพียงเท่านี้อยากจะฝากถึงส่วนที่รับผิดชอบที่สูงขึ้นให้บริหารจัดการเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด
Discussion about this post