
วันที่ 23 ธันวาคม 2564 ที่โรงแรมเลอเมอริเดีย เชียงใหม่ พล.ต.ต.ปชารัตนพันธ์ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวเชียงใหม่ เผยหลังประชุมใหญ่สามัญประจำปี ของสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวเชียงใหม่ (สทช.) ว่า ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์รับรองรายงานประชุมใหญ่ ปี 2563 พร้อมชี้แจงบัญชีรายรับ-รายจ่าย ก่อนขอแก้ไขข้อบังคับสมาคม และเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริหารสมาคม ตามลำดับ ซึ่งสมาคมฯ มีสมาชิก 500 ราย แต่เลิกกิจการ 80ราย คงเหลือสมาชิก 420 รายเท่านั้น
“เชียงใหม่เป็น 1 ใน 5 เมืองของประเทศ ที่มีรายได้จากท่องเที่ยว คิดเป็น 70 % ของผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (จีดีพี) ซึ่งภูเก็ตมีรายได้ท่องเที่ยวสูงสุด 90 % ของจีดีพี ดังนั้นนโยบายและแผนงานในปี 65 จึงเน้นการขยายฐานสมาชิกไปสู่ 25 อำเภอ จัดทำฐานข้อมูลเพื่อแจ้งสมาชิกให้ทราบอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกัน พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้มีมาตรฐานสากลและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ต่อยอดโครงการช่วยช้างที่มีอยู่กว่า 900 เชือก โดยหาพื้นที่ทหารปลูกหญ้าเนเปียร์เลี้ยงช้าง และจัดกิจกรรม เพื่อหารายได้ช่วยช้าง อาทิ ลอดท้องช้างสะเดาะเคราห์ ทำบุญช้างไทย และช้างวาดภาพ” พล.ต.ต.ปชา กล่าว

นอกจากนี้ในโอกาสที่สมาคมฯ ครบรอบ 40 ปี ในปี 2565 มีแผนสร้างสำนักงานถาวร ไม่ใช่โยกย้ายไปตามวาระนายกสมาคมฯ และเป็นปีแรกที่มีการจัดทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย และเสียภาษีรายได้อย่างถูกต้องเพื่อยกมาตรฐานสมาคมฯ สู่สากล และเป็นที่ยอมรับของสังคม พร้อมขับเคลื่อนท่องเที่ยวเชียงใหม่ ร่วมกับทุกภาคส่วน โดยมีเป้าหมายเพิ่มนักท่องเที่ยวและรายได้ เพิ่มขึ้น 10-20 % หรือตามสถานการณ์โควิดด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า งบการเงินของสมาคมฯ สิ้นสุดเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2564 มีรายรับ 11,190,920.40 บาท สูงกว่าปี 63 มีรายรับ 417,191.59บาท ซึ่งรายรับสมาคมฯ ส่วนใหญ่มาจากการสนับสนุนของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จำนวน 1.5 ล้าน และการบริจาคเพื่อช่วยช้างอีก 8.5 ล้านบาท ส่วนรายจ่าย 11,736,671.16 บาท สูงกว่ารายรับ จำนวน 545,750.76 บาท บวกภาษีเงินได้อีก 12,433.64 บาท ดังนั้นรายปจ่ายสูงกว่ารายรับสุทธิ 558,184.40 บาท
///////////////////////////
ทีมข่าว Talknews online รายงาน
Discussion about this post