วันที่ 29 ธันวาคม 2564 ณ ห้องประชุมพระธาตุพนม ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครพนม นายวรรณพล ต่อพล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นพ.ธนสิทธิ์ ไพรพงษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพนม นพ.กิตติเชษฐ์ ธีรกุลพงศ์เวช รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม (ด้านเวชกรรมป้องกัน) แถลงข่าวรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า พบผู้ป่วยเพิ่ม 9 รายแยกเป็นติดเชื้อในพื้นที่ 1 ราย อีก 8 รายติดเชื้อนอกพื้นที่ รวมยอดผู้ป่วยสะสม 5,272 ราย
ซึ่งในจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อนอกพื้นที่ 8 ราย มีสองรายที่เป็นคู่สามีภรรยา เพศชาย อายุ 50 ปี สัญชาติสวีเดน และหญิงอายุ 37 ปี เดินทางมาจากเมืองโมทาลา ประเทศสวีเดน พร้อมญาติรวม 7 คน เมื่อวันที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมา ทั้งนี้ทั้งหมดผ่านกระบวนการคัดกรองตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR ที่ประเทศต้นทางผลตรวจไม่พบเชื้อ เมื่อถึงประเทศไทยประเภท Test & Go ได้รับการตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR ผลตรวจก็ไม่พบเชื้อเช่นเดียวกัน
สองสามีภรรยาหลังเดินทางถึงนครพนมแล้ว วันที่ 27 ธันวาคมเริ่มมีอาการปวดกล้ามเนื้อ ระคายเคืองคอ จึงตรวจ ATK ด้วยตนเอง ผลออกมาบวกทั้งคู่ จึงแจ้งหน้าที่สาธารณสุขใกล้บ้าน ต่อมาโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนมรับตัวเข้ารักษา พร้อมเก็บตัวอย่างตรวจหาเชื้อ ซึ่งจากการประเมินเบื้องต้นคาดว่าอาจจะติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอน โดยอยู่ระหว่างสอบสวนผู้ป่วยและค้นหาผู้สัมผัสใกล้ชิด พร้อมเฝ้าระวังติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วย และกักตัวผู้ที่มีความเสี่ยงดังกล่าว ล่าสุด ผลตรวจยืนยันแล้วว่า เป็นเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอน
นพ.กิตติเชษฐ์ ธีรกุลพงศ์เวช รอง สสจ.นครพนม กล่าวว่าเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอนแม้จะแพร่กระจายเชื้อได้เร็วกว่าสายพันธุ์เดลต้า ซึ่งเป็นสายพันธุ์หลักที่ไทยกำลังรับมืออยู่ในขณะนี้ แต่มีความรุนแรงน้อยกว่าสายพันธุ์เดลต้า แต่ก็ไม่ควรประมาทประชาชนจึงควรเข้ารับวัคซีนเป็นการป้องกันที่ดีที่สุด สำหรับอาการผู้ป่วยโอมิครอนส่วนใหญ่ไอ 54 % และเจ็บคอ 37 % ได้กลิ่นน้อยลงแค่ 2 % เท่านั้น คาดว่าในระยะ 1-2 เดือน สายพันธุ์โอมิครอนจะเข้ามาแทนที่สายพันธุ์เดลต้า
นอกจากนี้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม ได้รับโล่จากกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะจังหวัดที่ฉีดวัคซีนกลุ่ม 608 สูงสุดเป็นอันดับ 2 ของประเทศ(105.94 %) ส่วนอันดับ 1 ตกเป็นของจังหวัดสกลนคร(108.79 %) ส่วนลำดับการฉีดวัคซีนเข็ม 1 นครพนมอยู่อันดับที่ 53 (63.91 %) โดยอันดับ 1 คือกรุงเทพฯ (116.82 %) อันดับบ๊วยสุดเป็นจังหวัดนราธิวาส (54.54 %) ข้อมูล ณ วันที่ 28 ธันวาคม 2564 เวลา 21.30 น.
Discussion about this post