เวลา 10.00 น. วันที่ 29 ธันวาคม 2564 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย นางกัลยาณี สุคนธาภิรมย์ ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อขอให้ใช้อำนาจสั่งให้นายก อบต.บ้านชุ้ง อำเภอนครหลวง พ้นจากหน้าที่ หลังจากที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่มานานแล้ว แต่จังหวัดกลับประวิงเวลาอย่างมีพิรุธ กลายเป็นที่ครหาของประชาชนนั้น ส่วนนายวีระชัย นาคมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ติดราชการจึงส่งตัวแทนมารับหนังสือดังกล่าว
ทั้งนี้สืบเนื่องจาก ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งใน ตำบลบ้านชุ้ง อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ร้องเรียนต่อ ป.ป.ช.ว่านายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านชุ้ง ได้กระทำการทุจริตเงินโครงการคนดีศรีบ้านชุ้งต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด 2556 เป็นเหตุให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้ทำการไต่สวนและสอบสวน และได้ทำการชี้มูลความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ พร้อมได้สรุปสำนวนการสอบสวนคดีดังกล่าวให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นครหลวง นายอำเภอนครหลวง และหรือจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดต่อไป
กรณีดังกล่าว นายอำเภอนครหลวงได้รายงานเสนอความเห็นไปยังผู้ว่าฯแล้วว่าควรพิจารณาสั่งให้นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านชุ้ง พ้นจากตำแหน่ง ตาม ม.92 แห่งพรบ.สภาตําบลและองค์การบริหารส่วนตําบล 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งท่านผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า คณะกรรมการสอบสวนที่นายอำเภอนครหลวงแต่งตั้งมีความเห็นว่าพฤติการณ์ของนายก อบต.บ้านชุ้ง มีส่วนรู้เห็นกับการเบิกจ่ายงบประมาณในโครงการดังกล่าวโดยทุจริตไม่ตรงความเป็นจริงใจ ไม่ปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการ อันเป็นการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน ตามกฎหมายข้างต้น รวมถึงความผิดฐานอื่นๆ ด้วย แต่ทว่าจังหวัดพระนครศรีอยุธยากับขอให้คณะกรรมการสอบสวนของนายอำเภอนครหลวงทำการสอบสวนเพิ่มเติม อันอาจถือได้ว่าเป็นการประวิงเวลาแม้ ป.ป.ช.จะชี้มูลความผิดไปแล้ว
ซึ่งปัจจุบันนายอำเภอนครหลวงได้ดำเนินการและรายงานผลการสอบสวนเพิ่มเติมให้จังหวัดพระนครศรีอยุธยาทราบนานแล้ว แต่ทว่าท่านผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยากลับยังมิได้ได้ใช้อำนาจสั่งให้นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านชุ้ง พ้นจากตำแหน่งตาม ม.92 วรรคสอง แห่งพรบ.สภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตําบล 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติมภายใน 30 วัน แต่อย่างใด อันอาจเข้าข่ายการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตาม ป.อาญา ม.157 ได้ หรือปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวล่าช้าเกินสมควร ตาม พรบ.วิธีปฏิบัติราชการทางการปกครอง 2539 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงได้เดินทางมาทวงถามผู้ว่าฯเพื่อมิให้มีการประวิงเวลา ไม่เช่นนั้นผู้ว่าฯอาจถูกร้องเรียนเอาผิดทางอาญาแทนได้ นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด
Discussion about this post