วันที่17มค.65ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดปราจีนบุรีรับแจ้งจากนายไพรวัลย์ มูลเชื้อ
ราษฎรหมู่ที่10 บ้านเขาจาน ต.ย่านรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ว่ามีช้างป่าอ่างฤาไนบุกเข้ามากินต้นข้าวในแปลงนาปรังของตนเองซึ่งก่อนหน้านี้ช้างป่าอ่างฤาไนตัวใหญ่1ตัวแอบเข้ามากินข้าว5ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5รู้สึกหดหู่ใจมากยิ่งขึ้นกว่าครั้งที่มาไม่รู้จะทำอย่างไรกับเหตุการณ์แล้วไล่ก็ไม่ไปยังแอบเข้ามากินข้าวที่ท้องแก่จัดจะเก็บเกี่ยวได้แล้วทุกคืน ช้างป่าอ่างฤาไนตัวดังกล่าวมากัดกินและเหยียบย่ำข้าวในนา1ตัวยังได้รับความเสียหายมากขนาดนี้ ช้างป่าอ่างฤาไนพากันมาหลายตัวข้าวในนาคงไม่เหลือให้เก็บเกี่ยวผลผลิตแน่
นายไพรวัลย์กล่าวว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาได้นำแผงโซล่าเซลล์มาติดไว้ในทุ่งนาทั้ง 2 ฝั่งเพื่อให้เกิดแสงสว่างในแปลงนาข้าว เพื่อป้องกันช้างป่าที่จะลงมากัดกินข้าวมาเมื่อคืนที่ผ่านมาคิดว่าช้างไม่น่าจะมา แต่พอตอนรุ่งสางได้ยินเสียงช้างหักต้นยูคาลิปตัสจึงออกมาดูพบว่าช้างกำลังกินข้าวและจุดประทัดไล่ช้างจึงหนีเข้าป่ายูคาไป จึงเดินเข้าไปดูป่ายูคาที่ติดกับนาข้าวพบว่าช้างป่ามานอนรอเวลาที่จะลงมากินข้าวเพราะรู้ว่ามีคนมาคอยไล่ผลักดัน จึงหาจังหวะที่คนเผลอพอสบโอกาสจึงเข้ามากินข้าวในทุ่งนา
มีความกังวลใจมากกว่าครั้งที่ผ่านมาเพราะช้างไม่ได้กลัวคนที่คอยขับไล่ ช้างอาศัยจังหวะคนเผลอที่จะกินต้นข้าวในนาของตนคิดบอกข่าวที่เสียหายไปไม่น่าจะได้รับการชดเชยและเยียวยาจากภาครัฐแต่อย่างใดเพราะไม่ได้เสียหายโดยสิ้นเชิง ทุกวันนี้ทำใจแล้วว่าอย่างไรก็ไม่ได้และไม่มีใครช่วยเหลือได้แต่รอดูไปวันๆว่าช้างจะกินข้าวในแปลงนาเพิ่มขึ้นอีกมากน้อยแค่ไหนอย่างไรแต่เชื่อว่า จะวนเวียนกินข้าวในแปลงนาที่มีอยู่ 10 กว่าไร่จนหมดหากยังไม่ได้เก็บเกี่ยวข้าวแล้วเสร็จ
จากการสำรวจพื้นที่ข้างเคียงพบว่าบริเวณดังกล่าวเป็นป่าอ้อยหลายร้อยไร่สลับกับป่ายูคาลิปตัสคาดว่าช้างตัวดังกล่าวน่าจะหลบอยู่ในป่าอ้อยหรือเปล่ายูคาที่อยู่ติดกันเมื่อถึงเวลาช้างอาศัยจังหวะแอบเข้ามาหากินข้าวในทุ่งนาของเกษตรกรได้รับความเสียหาย
Discussion about this post