วันนี้ (19 ม.ค. 2565) เวลา 16.30 น. ณ ภ.จว.ระนอง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วยพล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ รอง ผบช.ภ.8 / รอง ผอ.ศพดส.ภ.8 ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าคดีการค้ามนุษย์และคดีล่วงละเมิดเด็กในจังหวัดระนองโดยมี พล.ต.ต.ศรัญญู ชำนาญราช ผบก.ภ.จว.ระนอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้า
โดยภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวโดยระบุว่า วันนี้ได้ลงมาติดตามคดีสำคัญประกอบด้วย คดีการค้ามนุษย์ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2565 เวลา 16.30 น. น.ส.ปราณี เรืองพุทธ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดระนอง ได้ให้ความคุ้มครองผู้เสียหาย ซึ่งเป็นเด็กหญิงอายุ 16 ปี ที่ได้มาร้องขอความช่วยเหลือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ท่องเที่ยวจังหวัดระนอง หลังจากซักถามได้ข้อเท็จจริงแล้ว จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ ให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด ในความผิดโดยกล่าวหาว่า ”ร่วมกันเป็นธุระจัดหา ซื้อ ขาย จำหน่าย พามาจากหรือส่งไปยังที่ใด หน่วงเหนี่ยวกักขัง จัดให้อยู่อาศัยหรือรับไว้ซึ่งเด็ก อันเป็นการกระทำโดยมีความมุ่งหมายเพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ อันเป็นการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์” เหตุเกิดพื้นที่อำเภอเมืองระนอง ระหว่างวันที่ 16 ธันวาคม 2564 ถึง วันที่ 10 มกราคม 2565 โดยหลังจากได้รับแจ้งเหตุ ตำรวจภูธรจังหวัดระนอง ได้เร่งทำการสืบสวนสอบสวน จนทราบตัวผู้กระทำผิดที่เกี่ยวข้อง โดยสรุปข้อเท็จจริงว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้เสียหายซึ่งเป็นเด็กหญิงอายุ 16 ปี ได้รู้จักกับผู้ต้องหาทางเฟสบุ๊ค และชักจูงให้ผู้เสียหายมาอาศัยอยู่ด้วยกันกับผู้ต้องหา ต่อมา ระหว่างวันเวลาเกิดเหตุ ผู้ต้องหาซึ่ง เป็น หญิงอายุ ๒๔ ปี ที่เป็นแม่เล้า และ มีผู้ช่วยเป็นหญิงอายุ 18 ปีเศษอีก 1 คน บังคับให้ผู้เสียหายไปค้าประเวณี โดยแลกกับค่าตัวครั้งละประมาณ 100 – 1,200 บาท กับชายจำนวน 4 คน รวม 8 ครั้ง โดยให้ค่าตัวเด็กผู้เสียหายประมาณ ครั้งละ 100 บาท หรือไม่ให้เลย ซึ่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองระนอง ได้ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดระนองออกหมายจับผู้ต้องหา ในวันที่ 13 มมกราคม 2564 และสามารถติดตามจับกุมผู้ที่เป็นแม่เล้า และผู้ช่วยได้จำนวน 2 คน และจับกุมผู้ซื้อบริการทางเพศจากเด็กผู้เสียหายได้ 2 คน จากนั้นวันที่ 17 มกราคม 2565 พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองระนอง ได้ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดระนอง ออกหมายจับผู้ซื้อบริการทางเพศจากเด็กเพิ่มอีก 2 คน และชุดสืบสวนก็สามารถติดตามจับกุมตัวได้มาเพิ่มอีก 2 คน จนครบทั้ง 4 คน ซึ่งถือว่าเป็นการปฏิบัติตามนโยบายที่รวดเร็ว ขณะนี้ผู้เสียหายได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย และ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จะพิจารณาเสนอต่อคณะกรรมการระดับจังหวัด ขอรับค่าสินไหมทดแทนให้กับผู้เสียหายต่อไป
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า สำหรับกรณี ที่ 2 ซึ่งเป็นเรื่องที่ครูอัตราจ้างโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดระนอง ได้ล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กที่เป็นลูกศิษย์ และมีการเผยแพร่ข้อมูลไปทางสื่อออนไลน์ต่าง ๆ จากการสืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานพบว่ามีความคืบหน้า โดยจากการตรวจพิสูจน์พยานหลักฐานทางดิจิทัลทำให้ทราบว่า ครูผู้นี้เป็นครูอัตราจ้าง และ ทางโรงเรียนได้เลิกจ้างพร้อมกับตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย และจะเสนอคุรุสภาเพื่อถอนใบอนุญาตต่อไป โดยจากข้อมูลการตรวจพิสูจน์ทางดิจิทัลทราบว่า ระหว่างปี 2562 – 2564 มีเด็กผู้เสียหายที่หลงเชื่อ อายุระหว่าง 14-17 ปี ถูกผู้ต้องหาถ่ายภาพนิ่งและคลิปวีดีโอขณะทำอนาจารไว้ จำนวน 5 คน และ มีเด็กผู้ชาย อายุระหว่าง 15-18 ปี ถูกผู้ต้องหาส่งข้อความทางระบบแชทของเฟสบุ๊ค ชักจูงในทางลามกอนาจาร จำนวนประมาณ 11 คน พิจารณาจากการกระทำของผู้ต้องหา เป็นความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา กรณีกระทำชำเรา และกระทำอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี แล้วได้บันทึกภาพไว้เพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบประการอื่น , พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี และพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ไม่เกิน 15 ปี เเพื่อการอนาจาร ความผิดเกี่ยวกับการครอบครองสื่อลามกเด็ก ความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 มาตรา 26 (9)
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ความคืบหน้าทางการสอบสวน พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองระนอง ได้รับผลการตรวจพิสูจน์พยานหลักฐานทางดิจิทัล จากศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 แล้ว เนื่องจากคดีนี้มีการกระทำต่างกรรมต่างวาระ มีผู้เสียหายหลายคน ทั้งที่อายุต่ำกว่า 18 ปี และอายุมากกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี ซึ่งมีบทลงโทษแตกต่างกันไป โดยการสอบสวนผู้เสียหายที่เป็นเด็ก ต้องให้ทางกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดระนอง ร่วมกับพนักงานสอบสวน ในการพิจารณาความพร้อมของเด็กผู้เสียหายแต่ละราย ในส่วนของการคุ้มครองเด็กที่เป็นผู้เสียหาย จำเป็นจะต้องปกปิดข้อมูลของเด็กไว้ เนื่องจากเด็กจะยังต้องใช้ชีวิตในสังคมต่อไป การที่สื่อเปิดเผยชื่อหรือข้อมูลที่อาจทำให้รู้ได้ว่าเด็กผู้เสียหายเป็นใคร ทำให้เกิดความเสียหายทางจิตใจของเด็ก และอาจเป็นความผิดตามกฎหมาย ทั้งนี้ การเยียวยา บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดระนอง จะทำการประเมินสภาพจิตใจ ของเด็กผู้เสียหายเป็นรายคนต่อไป.
Discussion about this post