
ผู้สื่อข่าวจังหวัดพัทลุงรายงานว่าเมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.(สส.) พร้อมกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษ แดนไทย 54 ตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ กำลังตำรวจภาค 8 ตร.ภ.จว.พัทลุง ตร.ชุดปราบปรามผู้มีอิทธิพลมือปืนรับจ้าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมพวก วางแผนเข้าจับกุมตัวนายประดิษฐ์ฯ หรือ “ แกร็ก ฝาละมี “ พร้อมกับนางบุหลัน หมัดหัด ผู้เป็นภรรยา หลังจากสืบทราบว่าทั้ง 2 คน ซึ่งถูกหมายจับของศาลจังหวัดพัทลุง เข้ามาหลบซ่อนตัวในบ้านชั้นเดียวซึ่งเพิ่งก่อสร้างใหม่ บริเวณกลางทุ่งนา ท้องที่ ม.1 ต.รามแก้ว อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช แต่ขณะที่ตำรวจเข้าปิดล้อม ผู้ต้องหาเห็น ตำรวจบุกเข้ามาในบ้านหลังดังกล่าว นายประดิษฐ์ฯ ได้วิ่งออกจากจากบ้านพร้อมใช้อาวุธปืนสงครามชนิด เอ็ม 16 ยิงใส่ตำรวจชุดจับกุม เพื่อเปิดทางวิ่งหลบหนี จึงถูกตำรวจยิงโต้ตอบ จนทำให้นายประดิษฐ์ ฯ ถูกยิงเสียชีวิตคาที่ดังกล่าว
ต่อมาทางด้าน ร.ต.อ.ประยงค์ พาสกุล รอง สว.(สอบสวน) สภ.เขาพังไกร พ.ต.ท.วีระศักดิ์ ศรีทอง สวญ.สภ.เขาพังไกร อัยการ แพทย์เวร รพ.หัวไทร ปลัดอำเภอ จนท.พิสูจน์หลักฐานนครศรีธรรมราช และ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.(สส.) พร้อมด้วยนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ภ.จว.นครศรีธรรมราช ได้ร่วมกันชันสูตรพลิกศพนายประดิษฐ์ฯ ซึ่งถูกยิงเสียชีวิตบนพงหญ้ากลางทุ่งในสภาพนอนคว่ำหน้า ห่างจากบ้านหลังที่นายประดิษฐ์ฯเข้าไปซ่อนตัวประมาณ 70 เมตร พบว่านายประดิษฐ์ฯถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่บริเวณศีรษะ มือขวา ลำตัว และขาขวา จำนวนหลายนัด ใกล้กัน ตร.พบอาวุธปืนสงคราม ชนิดเอ็ม 16 ตกอยู่ข้างศพ 1 กระบอก พร้อมกระสุนในแมคจำนวนหลายนัด และพบปลอกกระสุนปืนสงครามชนิดดังกล่าว จำนวน 2 ปลอก จึงเก็บหลักฐานดังกล่าวไปดำเนินการตามกฎหมาย และนำตัวนางบุหลันฯ ภรรยานายประดิษฐ์ฯไปดำเนินการกฎหมายต่อไป
ทางด้านนายภิรม สังขำ อายุ 61 ปี เจ้าของบ้านกล่าวว่าในเบื้องต้นตนเองไม่ทราบเลยว่านายเกร็กเป็นใคร ที่เข้ามาพักบ้านตนเอง เนื่องจากมีเพื่อน ที่ อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง บอกว่านำเด็กมาฝากไว้ที่บ้านชักระยะหนึ่ง เนื่องจากได้ทะเลาะกับเพื่อนเขย ตนเองจึงบอกว่านำมาเถอะ ถ้าอยู่กันเดี่ยวจะทะเลาะกันอีกนำมาไว้ที่บ้านเพื่อได้ช่วยงานตน และมาอยู่ได้เพียง 2วัน จึงทราบขณะที่ตำรวจเข้าปิดล้อมจับกุม
ส่วนนางบุหลัน หมัดหัด ผู้เป็นภรรยา เปิดเผยว่าหลังจากที่ได้หลบหนีออกจากรีสร์อท ในพื้นที่ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ก็ได้มีเพื่อนของสามี นำรถมาเปลี่ยน ก่อนมาส่งที่ จ.กระบี่ แล้วไปต่อที่ จ.พังงา ก่อนแยกย้ายกับเพื่อนอีก 2 คนที่หนีออกจากรีสร์อทด้วยกัน และสามีพร้อมตนมาพักที่บ้านหลังเกิดเหตุดังกล่าว
สำหรับ นาย ประดิษฐ์ – “ แกร็ก ฝาละมี “ มุสิกะสงค์ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 337 หมู่ที่ 13 ต.ฝาละมี อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง ผู้ต้องหาตามหมายศาลจังหวัดพัทลุง ตรัง และ จ.สงขลา รวม 15คดี และมือปืนรับจ้างอันดับต้นๆของ ภ.9 ที่ทาง สตช.ต้องการการตัว และมีการตั้งค่าหัวไว้ 1 แสนบาท พร้อมพวก 5 คน เข้าหลบซ่อนตัวในมาตะตะลุงรีสอร์ท ท้องที่ ม.16 ต.ชะมวง อ.ควนขนุน และได้ขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อ ฟอร์ด โฟกัส สีขาว ทะเบียน กข.48 นครศรีธรรมราช ฝ่าวงล้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจหลบหนีการจับกุม พร้อมใช้อาวุธปืนสงครามยิงใส่รถกระบะอีซูซุสีบรอนด์เงิน 4 ประตู ของ พ.ต.อ.ภาคิน ณ ระนอง รอง ผบก.ภ.จว.พัทลุง ได้รับความเสียหายบริเวณกระจกหน้า 3 รู รอดตายอย่างปาฏิหาริย์
ล่าสุดทางด้าน พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.(สส.) ได้ลงพื้นที่จังหวัดพัทลุง เมื่อตอนต่ำวันที่ 24 มกราคม 2565 ด้วยเครื่องเฮลิคอปเตอร์ที่ลงจอด ณ ค่าย ตชด.434 พัทลุง เพื่อร่วมประสานงานกับ พล.ต.ต.ตานิตย์ รามดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง เพื่อออกไล่ล่าล่าสุด- “ แกร็ก ฝาละมี “ อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 04.30 น.วันที่ 26 มกราคม ตร.ชุดไล่ล่าประมาณ 50 นาย ของ ภ.จว.พัทลุง ตร.ชุดปราบปรามยาเสพติด ตร.ภ.9 ตร.ชุดปราบปรามผู้มีอิทธิพลมือปืนรับจ้าง สตช. เข้าปิดล้อมบ้านเลขที่ 429 หมู่ที่ 4 ต.เกาะเต่า อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง หลังจากสืบทราบว่า “ แกร็ก ฝาละมี “ พร้อมพวกอีก 2 คน เข้ามาหลบซ่อนตัวในบ้านหลังดังกล่าว แต่จากการตรวจค้นบ้านพักหลังดังกล่าวในตอนเช้าวันที่ 26 มกราคม 2565 ไม่พบตัวกลุ่มผู้ต้องหาแต่อย่างใด
แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่ละความพยายาม มีการจัดกำลังออกสืบสวนติดตามจับกุมอย่างต่อเนื่อง โดยมีพล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.และตำรวจระดับผู้บังคับบัญชาอีกหลายนาย ร่วมวางแผนจับกุม จนกระทั่งทราบที่หลบซ่อนของผู้ต้องหาคนสำคัญลัขณะเข้าจับกุม ผู้ต้องหายิงปืนสงครามใส่ตำรวจ จนกระทั่งถูกยิงตอบโต้จนเสียชีวิตดังกล่าว
Discussion about this post