จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ Nitmon Noo Niza โพสต์รูปภาพตลาดนัดจุดเกิดเหตุและข้อความระบุว่า “เรามีเรื่องมาเตือนผู้ซื้อของในนัดช่องพราน เมื่อวานเราโดนป้ายยาเอาทองไปเกือบ3บาท เงินอีก5000ที่สำคัญพระเหลี่ยมทององค์นั่น มีมูลค่า300000บาท เราไปแจ้งความมาดูที่เกิดเหตุจะดูกล้องวงจร สรุปกล้องเสียตำรวจถามพูดได้คำเดียวกล้องเสีย เราไปซื้อของตลาดนัดเราเป็นลูกค้ามาแทบทุกนัดก็หน้าจะให้ความสำคัญกับลูกค้าบ้างเราไม่ได้ให้มาชดใช้ให้เราแต่หน้าจะทำกล้องให้ดีเพื่อที่จะได้ช่วยลูกค้าที่มาจับจ่ายในตลาดนัดได้อีกส่วนนึง”
หลังมีการโพสต์รูปภาพและข้อความดังกล่าวลงในสื่อโซเชียล ทำให้มีชาวเน็ตแห่แชร์ข้อความดังกล่าว และต่างออกมาแสดงความคิดเป็น 2 ด้านกันจำนวนมาก เช่นบางรายบอกว่า น่าเห็นใจน้องมากเลยค่ะ ถ้ากล้องไม่เสียอาจจะจับตัวคนร้ายได้ ต่อไปขอให้น้องเจอแต่สิ่งดีๆได้เงินคืนหมดเคราะห์นะค่ะ, ตลาดออกจะใหญ่ไม่น่าปล่อยให้กล้องเสียเลย ขอให้ได้เบาะแสคนร้ายได้ของคืนค่ะ, ขณะที่รายบอกว่า นี่แค่ใส่ไปเดินตลาดนัดนะ ถ้าไปเดินห้างผมว่า ต้องห้อยโฉนดที่ดินมาแล้วหละ, ใส่ไปทำไมขนาดนั้น โชคดีที่ยังมีชีวิตรอด สร้างใหม่คิดส่ะว่าฟาดเคราะห์ไป
ล่าสุดวันนี้ (4 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 87 ม.5 ต.ชำแระ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี เพื่อไปพบกับ น.ส.นิรมล กินลา อายุ 35 ปี เจ้าของโพสต์ดังกล่าว ซึ่งได้เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 16.00 น.ของวันที่ 1 ก.พ.65 เธอได้ไปเดินตลาดนัดที่ระบุไว้ตามปกติ ระหว่างที่เดินหาซื้อของอยู่นั้น ได้มีคนร้าย 3 คน โดยคนร้ายคนที่ 1 อายุประมาณ 30-40 ปี ทำทีว่า ทำกระเป๋าเงินตกหายแถวบริเวณหน้าร้านเฟรนฟรายที่เธอยืนอยู่ และแกล้งมาสอบถามว่า เธอเก็บกระเป๋าเงินได้หรือไม่ และให้คนร้ายคนที่ 2 ทำทีเข้ามาเคลียร์ว่า เธอไม่ได้เป็นคนเก็บกระเป๋าเงินไป แต่เป็นผู้หญิงอีกคนที่เป็นคนเก็บกระเป๋าเงินไป พร้อมคนร้ายคนที่ 2 ทำทีชวนเธอให้ไปช่วยตามหาผู้หญิงคนที่เก็บกระเป๋าเงินไปได้ โดยอ้างกับเธอว่า สงสารคนที่ทำกระเป๋าเงินหาย
โดยขณะที่เธอหลงเชื่อและยอมไปช่วยตามหาคนที่เก็บกระเป๋าเงินไปได้ คนร้ายคนที่ 2 พยายามตีสนิทใกล้ชิดตัวเธอตลอดเวลา เช่น กอดเธอ แกะไหล่ แกะแขน ส่วนคนร้ายคนที่ 3 คือผู้หญิงที่เก็บกระเป๋าเงินไปได้ และทำทีว่าไม่รู้จักกับคนร้ายคนที่ 2 เมื่อเจอกัน ทั้งคู่ก็ชวนเธอให้ไปหาเจ้าของกระเป๋าเงิน คือคนร้ายคนที่ 1 แต่เธอพยายามให้ทั้งคู่นำกระเป๋าไปส่งให้ทางประชาสัมพันธ์ของตลาดประกาศตามหาเจ้าของกระเป๋า แต่ทั้งคู่ก็อ้างว่า กลัวเจ้าของตลาดเก็บกระเป๋าไว้เอง จนเวลาผ่านไปพักหนึ่ง คนร้ายทั้งคู่บอกกับเธอว่า ให้แบ่งเงินในกระเป๋ากันดีกว่า เพราะหาเจ้าของกระเป๋าไม่เจอ เธอจึงปฏิเสธพร้อมพยายามเดินหนี
แต่คนร้ายทั้งสองคนก็ยังเดินตามเธอมาที่รถและดึงเธอไว้ พร้อมเอาถุงเท้ามาใส่มือเธอ ทำให้เธอไม่รู้สึกตัวเลย มารู้สึกตัวอีกทีเธอก็ยืนถือถุงเท้าไว้ เมื่อเธอมองไปที่ข้อมือก็ไม่พบสร้อยข้อมือ จับที่คอก็ไม่พบสร้อยคอ พอได้สติเธอก็เปิดถุงเท้าดูคิดว่าเป็นทอง แต่สรุปเป็นเหรียญบาท จากนั้นเธอมาแจ้งที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของตลาด เพื่อขอดูกล้องวงจรปิด แต่ทางตลาดนัดบอกว่ากล้องเสีย เธอจึงมาแจ้งความที่ สภ.เขาดิน
น.ส.นิรมลยัง ยังเล่าอีกว่า ทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไป เป็นสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท พระเหลี่ยมทองกรอบทองหนัก 1 สลึง สร้อยข้อมือ 1 บาท แหวน 1 สลึง 1 วง และเงินสด 5,000 บาท แต่ที่ตนเสียใจที่สุดคือ เหรียญหล่อหลวงปู่รอด รุ่นแจกแม่ครัวปี 2477 วัดบางน้ำวน จ.สมุทรสาคร เพราะเคยมีคนมาติดต่อขอเช่าเธอในราคา 300,000 บาท ซึ่งรวมมูลค่าของทรัพย์สินทั้งหมดกว่า 400,000 บาท
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบ พ.ต.อ.ณัฏฐ์ พิพัฒนาสวัสดิ์ ผกก.สภ.เขาดิน ได้กล่าวว่า ในส่วนของผู้เสียหาย ได้เข้าแจ้งความไว้ที่สภ.เขาดิน ไว้แล้ว และได้ให้จนท.ชุดสืบสวน สภ.เขาดิน พาผู้เสียหายไปที่เกิดเหตุ ซึ่งทางลตาดแจ้งมาว่า กล้องวงจรปิดนั้นเสียมาประมาณ 1 ปีแล้ว ในเบื้องต้นให้ทางจนท.ชุดสืบสวน เร่งดำเนินการดูกล้องวงจรปิดตามเส้นทาง และประสานไปยังโรงพักใกล้เคียง ที่เคยเกิดเหตุลักษณะแบบนี้ เพื่อประสานขอรูปคนร้าย มาให้ผู้เสียหายชี้ตัวว่าใช่รายเดียวกันไหม ในส่วนของการป้องกัน ตอนนี้ได้ให้สั่งการให้จนท.ตำรวจ ออกประชาสัมพันธ์ ให้กับชาวบ้านที่มาเดินตามตลาดนัดได้เฝ้าระวัง พร้อมส่งจนท.ชุดสืบสวนนอกเครื่องแบบ ลงเดินตามตลาดนัด เพื่อปะปนไปกับประชาชนที่เดินทางมาจับจ่ายสินค้าและอาหารในตลาดนัด เพื่อเฝ้าระวังเหตุ
สุจินต์ นฤภัย(เต้) จ.ราชบุรี
Discussion about this post