ผู้สื่อข่าว จ.นนทบุรี รายงานว่า จากกรณีเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้รีเทิร์น Part 2 โพสต์เรื่องราว #ร้องเรียนตรวจสอบ #เล่าเรื่องจากหลังไมค์ โดยมีข้อความว่า “เด็กจะได้ไปเรียนไหมอ่ะ เสื้อผ้าหนังสือหายหมดวัน ว.เวลา น. ที่รถเทศบาลปากเกร็ด ออกปฏิบัติงานและมาขนมันไม่น่าตามยาก บันทึกต้องมีไม่ใช่ อ๋อ ! ทำไมถึงเงียบล่ะ เกิดอะไรขึ้นสื่อสังคมช่วยตรวจสอบด้วยพี่คะช่วยแชร์ให้หน่อยได้ไหมคะ ซึ่งคดีของเมื่อ 31 ตุลาคม 2564 เวลา 16.56 จนถึงตอนนี้ยังไม่คืบหน้าเลย ขอทางเพจช่วยหน่อยนะคะช่วยกันแชร์ด้วยนะคะหนูยังไม่ได้ไปเรียนเลยค่ะหนูกับน้องเจอเทศบาลกลั่นแกล้งไม่ยอมจ่ายเงินให้สักที รถเทศบาลนครปากเกร็ดนำข้าวของไปทิ้งโดยไม่ได้รับอนุญาตค่ะข้าวของหนูทั้งหมดเลยค่ะไปแจ้งความไว้ตั้งแต่ 31 ตุลาคม 2564 หนูได้นำข้าวของขนลงมาไว้ที่หน้าแฟตที่จอดมอเตอร์ไซค์ ได้ฝากข้าวของทั้งหมดไว้กับทางนิติบุคคลและยามที่ตึกไว้ก่อน เพราะตอนนั้น covid ระบาดไม่สามารถขนย้ายข้าวของค่ะ และได้บอกกับทางนิติบุคคลไว้แล้วทางนิติบุคคลอนุญาตให้วางไว้ได้ แต่ในวันที่ 29 ตุลาคม 2564 รถเทศบาลนครปากเกร็ดได้มาขนข้าวของหนูไปโดยไม่ได้แจ้งหรือโทรศัพท์มาสอบถามหนูเลย มีคนที่ตึกมาบอกหนู หนูเลยเข้าไปถามที่นิติบุคคล เขาบอกไม่ทราบเลยให้ไปแจ้งความค่ะ หนูไปแจ้งความที่ สน.ปากเกร็ดเสร็จ เลยมาขอทางนิติบุคคลขอดูกล้องวงจรปิดค่ะถึงได้คลิปมาค่ะ แล้วเรื่องก็เงียบค่ะตามเรื่องที่ สน. แล้วเรื่องก็เงียบเลยค่ะ
โดยเมื่อเวลา 23.30 น วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 65 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบยังแฟลตการเคหะ อาคาร 4 ถนนติวานนท์ ตำบลปากเกร็ด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี พบกับนางสาวกษริฐา แสงเทียนดี อายุ 32 ปี และนายผดุงเดช บาศรี อายุ 44 ปี สองสามีภรรยา พร้อมลูกสาวและลูกชาย ซึ่งกำลังเรียนอยู่ชั้น ม.1 และ ป.6 ของโรงเรียนดังย่านปากเกร็ด
โดยนางสาวกษริฐา ผู้ที่โพสต์ลงในเพจ เปิดเผยเรื่องราว กับผู้สื่อข่าวว่าตนและครอบครัวเช่าแฟตที่อาคาร 4 ห้อง 1968 ในราคาเดือนละ 1,800 บาท มานานหลายปี ระยะหลังส้วมตัน ท่อน้ำรั่ว เจ้าของห้องไม่แก้ไข สามีเลยไม่จ่ายค่าเช่าห้องมา 3 เดือน จึงถูกเจ้าของห้องพาตำรวจมาไล่ ตนกับสามีและลูกๆเลยเก็บข้าวของมากองไว้หน้าแฟตเพื่อเตรียมย้ายห้องตอนแรกตนเอาของย้ายลงมาแล้วบอกกับนิติว่าจะเอาของฝากไว้ตรงนี้ก่อน เพราะตอนนั้นเป็นช่วงโควิด ไม่สามารถนำของออกไปได้เลยพอวันที่ 29 ตุลาคม ทางเทศบาลได้มาขนข้าวของของตนไปโดยที่ไม่ได้บอ หรือแจ้งให้ตนทราบล่วงหน้าเลยว่าจะมาขนออกไป คนที่บอกคือเป็นแม่ของเพื่อนลูกสาว บอกว่ารถเทศบาลมาเก็บของไปรู้หรือเปล่า เลยรีบเข้าไปดูพบว่า ทางเทศบาลขนไปหมดทั้งกองเลย ก็เลยรีบไปแจ้งความที่สภ.ปาก เกร็ด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าให้แจ้งความไว้เป็นหลักฐานก่อน และพอกลับมาตนก็ไปขอดูกล้องวงจรปิดที่ห้องนิติ พอตนเห็นว่าเป็นเทศบาลตนเลยไปติดต่อกับทางเจ้าหน้าที่เทศบาล ทางเทศบาลขอดูคลิปตนจึงให้ดูปรากฏว่าคนที่มาเก็บชื่อนายมงคล ขับรถขยะ เบอร์ 84 ตรงนั้นมันไม่ใช่ที่ทิ้งขยะซึ่งที่ทิ้งขยะอยู่ด้านข้างตึกด้านหน้าเป็นลานจอดรถ ข้าวของของตนอยู่มุมแคบ และไม่ได้เกะกะ หลังแจ้งความเรื่องเงียบ จึงเข้าไปที่เทศบาลเขาบอกว่าจะรับผิดชอบ แต่ขอถามทางตำรวจก่อนว่าจะเอายังไง แล้วเรื่องก็เงียบอีกตนเลยโทรหาผู้กำกับแต่ไมได้รับคำตอบ ลูกของตนทั้งสองคนไม่ได้ไปโรงเรียนเลยมีเสื้อผ้านักเรียนอยู่ในกระเป๋า พร้อมทั้งพระเครื่องรุ่นเก่า ของพ่อและแม่แฟนที่ให้มาเก็บสะสมไว้ ซ่อนไว้ในกระเป๋าเสื้อผ้า ตนเป็นแม่ค้าขายของมือสองตามตลาดนัดของส่วนใหญ่จะมีราคามีทั้งรองเท้าผ้าใบและข้าวของต่างๆ สิ่งที่อยากได้คือข้าวของของตน เพราะตอนไปทวงเขาบอกว่าทิ้งขยะไปเรียบร้อยแล้ว อยากถามว่าจิตสำนึกคนเก็บขยะตรงนั้นไม่ได้เป็นที่ทิ้งขยะคุณมาเก็บไปทำไม คุณน่าจะโทรแจ้งเจ้าของก่อน นี่มาเก็บโดยที่ไม่ได้บอกอะไรเลย แล้วก็มีคนยืนยันว่ามีการรื้อค้นข้าวของ ตอนนี้ต้องหาเงินทุกวันๆละ 400 บาทเพื่อจะมาจ่ายค่าเช่าห้องที่อยู่ทุกวันนี้เช่าเป็นรายวันลูกของตนไม่ได้ไปโรงเรียน ตอนนี้ไม่มีเงินซื้อชุดนักเรียนให้ลูก 2 คน ลูกของตนอยู่ ม.1 กับ ป.6 ที่ตนไม่ได้เก็บพระแล้วของมีค่าให้ดีเนื่องจากตนถูกเจ้าของห้องไล่และทางตำรวจก็มาเชิญให้ออกไป ลูก 2 คนกินข้าวอยู่ในห้องตอนนั้นเก็บข้าวของไม่ทันจริงๆ จึงต้องรีบเก็บของมีค่ารีบยัดใส่กระเป๋า ปิดไว้ยังไงก็ไม่มีคนรู้อยู่แล้ว พระหลวงปู่เอี่ยมวัดสะพานสูงรุ่น 100 ปี และมีพระอีกหลายองค์ซึ่งมีราคาแพงมาก และเครื่องมือช่างซ่อมไฟฟ้าเครื่องมือซ่อมประปา เครื่องมืออีเล็กทรอนิกส์ที่รับซ่อม เครื่องราคาหลายหมื่นบาท รวมกับพระเครื่องนับสิบองค์ ราคาสี่แสนกว่าบาททุกวันนี้รับจ้าง ใครจะรับผิดชอบ งานก็ทำไม่ได้เลยเพราะเครื่องมือถูกทางเทศบาลยกไปหมดตอนนี้อยากได้ของคืนเพราะตนเสียดายมาก.
Discussion about this post