วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 นางรฎาวัญ วงศ์ศรีวงศ์ หัวหน้าพรรคเสมอภาค เผยกรณีกระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศเรื่อง ระบุ ชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ.2565 ปลดล็อก”กัญชา”พ้นยาเสพติด มีผลเมื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว 120 วัน ว่า เป็นเรื่องที่ดีต่อประเทศที่สามารถปลูกกัญชา กัญชง และกระท่อมได้ทุกสายพันธุ์ แต่ขาดการส่งเสริมสนับสนุนให้มีการวิจัย พัฒนา ต่อยอด ให้สำเร็จอย่างจริงจังจากภาครัฐตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทำให้ประเทศสูญเสียโอกาสได้รับประโยชน์ทางด้านสุขภาพและทางด้านเศรษฐกิจไปอย่างน่าเสียดาย เมื่อรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีประกาศนโยบายปลูกกัญชาเสรีครอบครัวละหกต้น นำโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณะสุขตั้งแต่ปี 2562 แต่โครงการนี้ก็ไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากไม่มีการบูรณาการกับกระทรวงที่เกี่ยวข้อง จึงเกิดความขัดแย้งในการปฏิบัติและส่งผลให้ประชาชนที่สมัครเข้าร่วมโครงการปลูกกัญชาเสรีประสบปัญหาขาดทุนและถูกจับกุมมีความผิดตามกฏหมาย สร้างความผิดหวังให้กับประชาชนจำนวนไม่น้อย นอกจากนี้ยังมีข่าวว่าผู้ที่ได้รับประโยชน์กระจุกอยู่แค่กลุ่มนักการเมืองบางกลุ่มและกลุ่มทุนบางกลุ่มเท่านั้น
นางรฎาวัญ กล่าวว่ารัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขควรย้อนไปดูความล้มเหลวที่ผ่านมาเป็นบทเรียนแล้วกำหนดมาตรการใหม่ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาต่างๆไม่ให้เกิดขึ้นอีก ด้วย 5 ข้อเสนอดังนี้
1.บูรณาการประสานแผนงานความร่วมมือกับทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง และยึดกรอบข้อบังคับตามกฎหมายฉบับเดียวกัน ที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขส่งเสริมให้ปลูกแต่กระทรวงอื่นไล่จับประชาชนที่ปลูก จึงเกิดความสับสนโครงการจึงเดินหน้าไม่ได้
2.กำหนดแผนงาน กิจกรรม โครงการอย่างเป็นระบบครบวงจรให้ชัดเจน เพื่อง่ายต่อการปฎิบัติของประชาชน และทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
3.เผยแพร่ข้อมูลโดยละเอียดของโครงการให้แก่ประชาชนอย่างเสมอภาคเท่าเทียมทั่วถึง อย่าเลือกปฏิบัติให้พรรคพวกและกลุ่มทุนรู้ข้อมูลก่อนประชาชน โดยเฉพาะข้อมูลด้านการตลาดที่จะต้องมีอย่างชัดเจน การปลูกและการแปรรูป
4.จัดตั้งศูนย์บริการประชาชนอย่างรวดเร็ว One Stop Service ลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็นและลดค่าใช้จ่ายของประชาชน ภาครัฐต้องเอื้อประโยชน์ให้แก่ประชาชนให้ดีที่สุด
5.กำหนดมาตรการส่งเสริมสนับสนุนการนำผลิตภัณท์กัญชา เข้าเป็นส่วนผสมในตำรับยาแผนโบราณของไทย ซึ่งมีจำนวนหลายตำรับอยู่แล้วเพื่อยกระดับคุณภาพและประสิทธิภาพของตำรับยาแผนโบราณของไทยให้เป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ และควรวิจัยรับรองมาตรฐานเนื่องจากสามารถป้องกัน รักษา ฟื้นฟู การเจ็บป่วยด้วยโรคระบาดร้ายแรง เช่นโควิดทุกสายพันธุ์ รวมทั้งโรคไม่ติดต่อ เช่น มะเร็ง ฯลฯ ควรจัดตั้งกระทรวงการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรไทย เพื่อให้การบริหารจัดการภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยประสบความสำเร็จ เกิดประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชน เป็นการปฏิบัติตามมาตรา 55 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560
“ดิฉันไม่อยากเห็นความล้มเหลวของรัฐบาลเพราะผู้ที่จะได้รับผลกระทบโดยตรงก็คือประชาชนทั้งประเทศ นายกรัฐมนตรีต้องรีบสร้างความร่วมมือระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลและใช้เวลาที่เหลืออยู่ตามวาระ แก้ปัญหาความเดือดร้อนประชาชนโดยเร็ว มีอยู่หลายโครงการพัฒนาที่สามารถฟื้นเศรษฐกิจได้ภายใน3-6 เดือน แต่ต้องบริหารจัดการอย่างมืออาชีพใจซื่อมือสะอาดเท่านั้น ถึงทำได้สำเร็จ” นางรฎาวัญกล่าว
Discussion about this post