
วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2565 ที่สวนเสือไทเกอร์คิงดอม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ นางสิรินทร รามสูต รองประธานคณะกรรมการธิการ (กมธ.) ท่องเที่ยว สภาผู้แทนราษฏร เป็นประธานประชุมรับฟังปัญหาและข้อจำกัดในการประกอบธุรกิจปางช้างและคุ้มเสือ เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวมี พล.ต.ต.ปชา รัตนพันธ์ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่พล.ต.(หญิง) กชกร ไชยบุตร เหรัญญิกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะผู้บริหารสวนเสือไทเกอร์คิงดอม พร้อมคณะกรรมการ สมาชิกและเจ้าหน้าที่ เข้าร่วมกว่า 50 คน โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง
ภายหลังประชุม พล.ต.(หญิง) กชกร ได้นำนางสิรินทร พร้อมคณะเยี่ยมชมสวนเสือดังกล่าว ที่มีเสือดูแล 32 ตัว เพื่อเก็บข้อมูลก่อนนำไปประกอบการพิจารณาช่วยเหลือ จากนั้นได้เข้าชมการแสดงเสือภายในกรงของเจ้าแบงก์เสือโคร่งลายเบงกอล เพศผู้วัย 8 ปี 6 เดือน ที่ได้สร้างความประทับใจแก่คณะดังกล่าวอย่างมาก ก่อนเดินทางไปยังปางช้างที่ อ.แม่แตง ตามลำดับ
พล.ต.(หญิง) กชกร กล่าวว่า ไทเกอร์คิงดอม มี 3 สาขา คือ อ.แม่ริม อ.แม่แตง และภูเก็ต มีเสือดูแล 220 ตัว ตั้งแต่มีนาคม2563 ช่วงโควิดระบาดกิจการไม่มีรายได้ ต้องลดราคาต่ำกว่าทุน มีรายได้ไม่ถึง 10 % แต่มีพนักงานบริการกว่า 400 คน ต้องลดเวลาทำงานเหลือ 10-15 วัน/เดือน เนื่องจากมีต้นทุนบริหารจัดการสูง ทำให้ขาดสภาพคล่อง ส่งผลเหลือพนักงานเพียง 100 คนเท่านั้น แต่มีค่าใช้จ่ายรวม 4-5 ล้านบาท/เดือน ดังนั้นอยากรัฐบาลและสถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวมากขึ้นเพื่อเป็ทุนหมุนเวียนและประคองกิจการให้อยู่รอดได้

พล.ต.ต.ปชา กล่าวว่า ได้เสนอ กมธ.ท่องเที่ยว เพื่อแก้ปัญหาปางช้างและคุ้มเสือมากว่า 2 ปีแล้ว และในที่ประชุมได้เสนอแก้ปัญหา 3 แนวทาง คือ 1.อยากให้รัฐบาลพักชำระหนี้ผู้ประกอบการปางช้างและคุ้มเสือ ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย โดยให้สถาบันการเงินรัฐปรับโครงสร้างและพักชำระหนี้ 2 ปี 2. ให้สถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อให้ผู้ประกอบการ เพิ่อเสริมสภาพคล่องโดยนำตั๋วรูปพรรณช้าง เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันสินเชื่อได้ 3. ขอภาครัฐทำโครงการปลูกหญ้าเนเปียร์ เพื่อผลิตเป็นอาหารช้าง และเสือแบบยั่งยืน เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนอาหารเลี้ยงสัตว์ดังกล่าว ที่ผ่านมาผู้ประกอบการต้องช่วยเหลือตนเอง โดยไม่มีภาครัฐเข้ามาช่วยเหลืออย่างใด
ด้านนางสิรินทร กล่าวว่า ได้รับฟังปัญหาและข้อจำกัดผู้ประกอบการแล้วจะรวบรวมข้อมูลและข้อเท็จจริง เพื่อนำเสนอรัฐบาลแก้ไขอีกครั้ง ส่วนปัญหาสินเชื่อ คุ้มเสือไม่สามารถนำสิ่งมีชีวิต เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันได้ เพราะเสือเป็นสัตว์อนุรักษ์ ที่สำคัญสถาบันการเงินไม่คุ้นเคยกับการปล่อยสินเชื่อดังกล่าว ดังนั้นต้องแก้กฎหมายคุ้มครองและเพาะพันธุ์สัตว์ให้เป็นทรัพย์สิน เพื่อนำไปเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน เพื่อเสริมสภาพคล่องผู้ประกอบการได้ ส่วนกองทุนฟื้นฟูผู้ประกอบการท่องเที่ยวกว่า 50,000 ล้านบาท ยังเหลืออยู่อีกมาก แต่ผู้ประกอบการชะลอลงทุน และปิดกิจการชั่วคราวอยู่ เนื่องจากยังประสบปัญหาการระบาดโควิด
Discussion about this post