กรณีพระยิงชาวบ้าน ได้ถูกจับสึกและตกเป็นผู้ต้องหาแล้ว และรับสารภาพว่าได้ยิงปืนจริง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน สามารถยึดอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุได้แล้ว ทางด้านคณะกรรมการหมู่บ้าน บ้านใหม่ หมู่ 5 ต.ปางหมู อ.เมือง ฯ พากันคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหา โดน 3 ข้อหา พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา , มีอาวุธปืนไม่มีทะเบียนโดยไม่ได้รับอนุญาตไว้ในครอบครอง และ พกพาอาวุธปืนไปในหมู่บ้านในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
คืบหน้า เมื่อวันที่ 21 ก.พ.65 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังสำนักสงฆ์ดอยจ่าตี่ ซึ่งอยู่ติดกับสวนรุกชาติห้วยโป่งแข่ หมู่ 5 ต.ปางหมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน พบว่าหลังเกิดเหตุพระใช้อาวุฒิปืนกราดยิงชาวบ้าน กุฏิพระทั้ง 4 หลัง ถูกปิดประตูเงียบพระที่เคยอยู่ภายในสำนักสงฆ์แห่งนี้หนีหายไปหมดไม่มีพระอยู่แม้แต่องค์เดียว มีเพียงพระลูกวัดของวัดบ้านใหม่ซึ่งเป็นวัดภายในหมู่บ้านพร้อมกับโยมได้เดินทางกับรถยนต์ปิกอัพ มาเก็บข้าวของตู้เย็นและสิ่งของต่าง ๆ ภายในสำนัก สงฆ์ดอยจ่าตี๋ เพื่อนำไปเก็บไว้ที่วัดบ้านใหม่
จากการสอบถามพระลูกวัดบ้านใหม่ที่เดินทางมาเก็บของภายในสำนัก สงฆ์ดอยจ่าตี๋ไม่ยอมเปิดเผยชื่อ และกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าเท่าที่รู้ พระเชื้อ กล่ำมาศ อายุ 50 ปี เป็นคน จ.พัทลุง บวชมาแล้ว 20 พรรษา เดินธุดงค์มาขออยู่ที่วัดป่าบ้านใหม่ ต.ปางหมู อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ได้ประมาณ 1 ปี หลังจากที่หลวงพ่อองค์ก่อนของสำนักสงฆ์ดอยจ่าตี๋มรณภาพ ทางวัดบ้านใหม่ได้ส่งพระเชื้อ ฯ มาอยู่ดูแลสำนักสงฆ์แห่งนี้ได้ประมาณ 3 เดือน โดยปกติพระเชื้อเป็นคนเงียบ ๆ ไม่ค่อยยุ่งกับใครเรื่องปืนตนเองก็ไม่รู้มาก่อนว่าหลวงพี่เชื้อจะมีปืนติดตัวจำนวนมาก รู้เพียงว่าหลวงพี่เชื้อชอบเล่นปืน
นายสมนึก ไชยรัตน อายุ 45 ปี ชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ ระบุว่า ขณะเกิดเหตุได้นอนอยู่ในบ้านของตนเองที่ติดกับที่เกิดเหตุ และได้ยินเสียงทะเลาะกันระหว่างครูคนหนึ่ง ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ดินที่ติดกับสำนักสงฆ์ดอยจ่าตี่ โดยทางครูคนดังกล่าว ( ขอสงวนนาม ) ได้โทรหาเจ้าอาวาสวัดป่าบ้านใหม่ ซึ่งเป็นผู้ส่งพระคนก่อเหตุมาจำวัดที่สำนักสงฆ์ โดยพระคนก่อเหตุ ได้ถือมีดจะทำร้ายครู จึงได้ตะโกนห้ามและถามว่าเป็นนักเลงหรือ ทันใดนั้นพระองค์ดังกล่าว ( ในขณะนั้น ) ใด้ชักปืนพกสั้นสีดำ ออกมาเล็งยิงมาที่ครู และตน ต่อมาผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านได้วิ่งลงมาก็ถูกยิงไปด้วย แต่กระสุนไม่ได้ถูกใคร โดยในช่วงเช้าวันนี้ ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองมาตรวจสอบพื้นที่ และเก็บปลอกกระสุนปืน ไปนับสิบนัด รวมไปถึงพบร่องรอยกระสุนปืนที่ยิงถูกตัวบ้านเรือนและหลังคาที่อยู่ติดกับจุดเกิดเหตุ
นางประพิณ แก้วทองมา ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 5 บ้านใหม่ ต.ปางหมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางคณะกรรมการหมู่บ้าน ได้พากันไปพบเจ้าอาวาสวัดป่าบ้านใหม่ เพื่อขอร้องไม่ให้เข้ามาช่วยเหลือและประกันตัวผู้ต้องหาผู้ก่อเหตุคือ นายเชื้อ กล่ำมาศ อายุ 50 ปี ที่อยู่ตามบัตรประชาชน เลขที่ 717 หมู่ 1 ต.ท่ามะเดื่อ อ.บางแก้ว จ.พัทลุง เนื่องจากเกรงจะมากดดันราษฎรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ติดกับสำนักสงฆ์วัดดอยจ่าตี่ ซึ่งมีบ้านเรือนกว่า 10 หลังคาเรือน
นางประพิณ แก้วทองมา กล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตามในเบื้องต้น ชาวในหมู่บ้านบ้านใหม่ รวมไปถึงคณะกรรมการหมู่บ้านเห็นว่า พื้นที่ดังกล่าว ไม่สมควรที่จะเป็นวัดหรือสำนักสงฆ์เนื่องจากพระที่มาจำวัดอาศัยอยู่ มักสร้างปัญหากับชาวบ้าน และมีความเห็นพ้องกันว่า จะนำเรื่องดังกล่าว เสนอไปยังนายอำเภอเมืองแม่ฮ่อง สอน เพื่อขอยกพื้นที่ดังกล่าว เป็นพื้นที่สาธารณประโยชน์ หรือใช้เป็นสถานที่ออกกำลังกาย เนื่องจากมีพื้นที่อยู่ติดกับสวนรุกชาติห้วยโป่งแข่ ส่วนสำนักสงฆ์และวัด คือที่บ้านใหม่มีวัดป่าบ้านใหม่อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องมาสร้างวัดตรงพื้นที่ดังกล่าวอีกต่อไป
ในส่วนของ นายเชื้อ กล่ำมาศ ผู้ต้องหา ทางเจ้าหน้าที่ได้จับสึกและยอมรับสารภาพว่า ได้ยิงชาวบ้านจริง โดยเจ้าหน้าที่สามารถติดตามไปยึดอาวุธปืนของกลาง ได้บนเทือกเข้าใกล้จุดเกิดเหตุ หลังจากที่นายเชื้อ ฯ ได้ทิ้งก่อนหนีไปที่วัดป่าบ้านใหม่
สำหรับพื้นที่สำนักสงฆ์ที่เป็นข้อพิพาทดังกล่าว ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านระบุว่า เดิมที่ไม่ได้เป็นวัด เป็นพื้นที่ป่าติดหมู่บ้าน ต่อมาได้มีพระธุดงค์มาปักกลดอยู่ในป่า ชาวบ้านจึงนิมนต์ให้อาศัยอยู่ จนกลายเป็นสำนักสงฆ์ ซึ่งในตอนแรก พระที่มาอาศัยอยู่ ได้ไปขนลำเลียงก้อนอิฐโบราณ จากที่อื่นมาไว้บนยอดเขา ในพื้นที่ดังกล่าวแล้วอ้างว่า เดิมเป็นวัดเก่าแก่ เพื่อที่จะให้ทางการยอมรับเป็นวัดและสำนักสงฆ์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ต่อมาตั้งแต่พระคนก่อเหตุมาจำวัดอยู่ ซึ่งมาจากวัดป่าบ้านใหม่ ได้เกิดข้อพิพาทกับชาวบ้านที่อาศัยอยู่รอบวัด มาแล้ว 3 ครั้ง และครั้งที่ 3 ถึงได้มีเหตุการณ์ไล่ยิงญาติโยมขึ้นมา
นายพงศธร ศิริรัตน์ ผู้ใหญ่บ้าน บ้านใหม่ หมู่ 5 ต.ปางหมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน กล่าวว่า วันนี้ตนได้นำผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน พร้อมคณะกรรมการหมู่บ้านมาพบ พ.ต.อ.ภาสวินท์ แก้วต่าย ผกก.สภ.เมืองแม่ฮ่อง สอน เพื่อไม่อยากให้ประกันตัวนายเชื้อ ฯ ผู้ต้องหา เกรงว่าเมื่อประกันตัวออกไปชาวบ้านจะไม่ได้รับความปลอดภัย และยังกล่าวต่ออีกว่าพื้นที่ดังกล่าวจะเรียกว่าสำนักสงฆ์ก็คงไม่ได้ เพราะยังไม่ขึ้นทะเบียน แต่ก็มีการพยายามของวัด ที่จะขอออกเอกสารสิทธิ์เพื่อตั้งเป็นสำนักสงฆ์ เพราะเป็นพื้นที่ป่าเจ้าหน้าที่ก็ไม่สามารถออกเอกสารสิทธิ์ให้ได้ เพราะเห็นมีเอกสารการขอใช้พื้นที่อยู่ที่วัดป่าบ้านใหม่แต่ก็ไม่มีการลงนามใดๆ ชาวบ้านก็มาทำประโยชน์แต่ก็ไม่มีเขตแนวที่แน่ชัด พระสงฆ์ก็เอาหลักไปปักกั้นไว้ก็ทำให้เกิดข้อพิพาทกันขึ้นมา เรื่องประกันตัวในเชื้อ ฯ ผู้ก่อเหตุนั้นได้ข่าวว่าทางวัดป่าบ้านใหม่มาปรึกษากับกรรมการหมู่บ้านจะขอใช้เงินวัดไปประกัน ตนพร้อมชาวบ้านไม่เห็นด้วย หากประกันตัวออกไปเกรงว่าชาวบ้านจะไม่ได้รับความปลอดภัย จึงมาขอพบผู้กำกับหากจะมีการประกันตัวนายเชื้อ ฯ ทางชาวบ้านของกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปดูแลความปลอดภัยชาวบ้านด้วย
พ.ต.อ.ภาสวินท์ แก้วต่าย ผกก.สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ทางตำรวจได้ทำการสอบปากคำผู้เสียหายซึ่งเป็นชาวบ้านไปแล้ว 2 ปาก และนำตัวผู้ต้องหาไปชี้สถานที่เกิดเหตุ พร้อมยึดอาวุธปืนของกลาง มีดของผู้ก่อเหตุ ส่วนผู้ต้องหาได้ทำการสึกที่วัดป่าบ้านใหม่ไปเรียบร้อยแล้วและถูกควบคุมตัวอยู่ที่ สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน โดยแจ้งไว้ 3 ข้อหา พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา , มีอาวุธปืนไม่มีทะเบียนโดยไม่ได้รับอนุญาตไว้ในครอบครอง และ พกพาอาวุธปืนไปในหมู่บ้านในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ขณะนี้ยังไม่มีการยื่นขอประกันตัว ทางตำรวจได้ตรวจสอบประวัติและหมายจับบุคคลพ้นโทษแล้ว ไม่พบประวัติก่อคดีอาชญากรรมแต่อย่างใด ทั้งนี้ทางตำรวจจะเร่งทำการสอบสวนและให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย.
Discussion about this post