
วันที่ 24 ก.พ.65 ณ ห้องประชุมพระธาตุ พนม ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครพนม นายชาธิป รุจนเสรี ผวจ.นครพนม พร้อมด้วย นาง กาญจนี รุจนเสรี ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดนครพนม เป็นประ ธานประกอบพิธีมอบแบบลายผ้าขิดพระราชทาน “ผ้าขิดลายนารีรัตนราชกัญญา” ให้แก่ช่างทอผ้าทุกกลุ่ม ทุกเทคนิค นำไปทอผ้า ผลิตผ้าตามอัตลักษณ์ภูมิปัญญาของแต่ละพื้นถิ่นในพื้นที่จังหวัดนครพนม ผ่านทางพัฒนา การจังหวัดนครพนม นายอำเภอทั้ง 12 อำเภอ และภริยาหรือสมาชิกสมา คมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดนครพนม โดยมีคณะหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนร่วมพิธี
นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ได้ทรงอุทิศพระองค์ปฏิบัติบำเพ็ญพระกรณียกิจนานัป การ เพื่ออำนวยประโยชน์สุขแก่อาณาประชาราษฎร์ ทรงมุ่งมั่นที่จะสืบสานพระราชปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการอนุรักษ์ พื้นฟู ศิลปวัฒนธรรม ภูมิ ปัญญาหัตถกรรมไทย ให้ดำรงอยู่ยั่งยืนตลอดไป และด้วยพระอัจฉริยภาพ พระองค์ทรงต่อยอดผสมผสานมุมมองด้านแฟชั่นที่ร่วมสมัย แต่ยังคงไว้ซึ่งการสืบสานอัตลักษณ์ เรื่องราวประจำภูมิภาค เป็นคุณูปการอย่างยิ่งแก่ปวงชนคนไทย ทรงพระราชทานแบบลายผ้า ชื่อลาย “ผ้ามัดหมี่ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” แก่พสกนิกรชาวไทย อันเป็นสิ่งที่ประจักษ์ชัดถึงพระปรีชาสามารถในการออกแบบ เกิดความเชื่อมั่นว่าความงดงามของผ้าไทยจะคงอยู่คู่กับสังคมไทย
และเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2565 สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จพระราชดำเนิน ณ อำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม ทอดพระเนตรกลุ่มทอผ้าไหมกลุ่มแรกของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และการจัดแสดงผลิตภัณฑ์ผ้าไทย และงานหัตถกรรมชุมชนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ วัดธาตุประสิทธิ์ และหอประชุมโรง เรียนนาหว้าพิทยาคม จังหวัดนคร พนม เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี ของโครงการศิลปาชีพ และในโอกาสเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ครบ 90 พรรษา เพื่อสร้างการรับรู้ประวัติศาสตร์สู่คนรุ่นหลัง และสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นให้คงอยู่สืบไป โดยมีสมาชิกกลุ่มทอผ้าไหมกลุ่มแรกของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ในพื้นที่จังหวัดนครพนม และราษฎรเฝ้าฯ รับเสด็จ ในการนี้ทรงพระราชทานแบบลายผ้า “ผ้าขิดลายนารีรัตนราชกัญญา”ที่ทรงได้รับแรงบันดาลพระทัยจาก “ผ้าขิดลายสมเด็จ” ที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระราชทานแก่ราษ ฎร อันเป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาผ้าไทยให้มีความร่วมสมัย ซึ่งแต่ละลวด ลายมีความหมายที่ลึกซึ้ง แสดงถึงความตั้งพระทัยมั่นของพระองค์ในการสืบสาน รักษา ต่อยอดพระราชกรณียกิจของสมเด็จย่า ในการฟื้นคืนภูมิปัญญาผ้าไทยให้ดำรงคงอยู่คู่แผ่นดิน ผ่านปลัดกระทรวงมหาดไทย เพื่อเป็นของขวัญให้กับช่างทอผ้าทุกกลุ่ม ทุกเทคนิคนำไปทอผ้า ผลิตผ้าตามอัตลักษณ์ภูมิปัญญาของแต่ละท้องถิ่นทั่วประเทศ โดย “ลาย S ที่ท้องผ้า” หมายถึง สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงเป็นต้นแบบในการอนุรักษ์ภูมิปัญญาผ้าไทย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ได้ทรงออกแบบให้เว้นช่องว่างไว้ เพื่อให้ราษฎรได้ร่วมถักทอลวดลายของตนเองลงในช่องว่าง เป็นการสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากแต่ละท้องถิ่น โดยลายขิดที่เป็นกรอบล้อมรอบตัว S นี้ หมายถึงความจงรักภักดีที่ชาวไทยมีต่อพระบรมราชจักรีวงค์
“ลายเชิงผ้ารูปหัวใจ” หมายถึง ความรักของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่มีต่อปวงชนชาวไทย
“ลาย S ประกอบกับลายขิดที่เชิงผ้า” หมายถึง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่ทรงปรารถนาให้คนไทยอยู่ดีมีสุข
“ลายต้นสนที่เชิงผ้า” หมายถึง พระดำริในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ในการฟื้นฟูประวัติศาสตร์ของโครงการศิลปาชีพฯ อันลายต้นสนนี้ เป็นลวดลายพื้นถิ่นที่ถักทออยู่บนผืนผ้าของบ้าน นาหว้า จังหวัดนครพนม ที่ซึ่งเป็นจุดกำเนิดโครงการศิลปาชีพฯ“ลายหางนกยูงที่เชิงผ้า” หมายถึง ความตั้งพระทัยมั่นในการสืบสาน รักษาและต่อยอด พระราชกรณียกิจของสมเด็จย่าของพระองค์ ในการฟื้นคืนภูมิปัญญาผ้าไทยให้ดำรงคงอยู่คู่แผ่นดิน ซึ่งที่ผ่านจังหวัดนครพนมได้มีการดำเนินการประชาสัมพันธ์เชิงรุกเพื่อส่งเสริมและขับเคลื่อนให้กลุ่มทอผ้าในพื้นที่จังหวัดนครพนมนำแบบลายผ้าพระราชทาน “ ผ้ามัดหมี่ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ”ไปถอดแบบและทอผ้าร่วมกับผ้าพื้นเมืองชนิดอื่น ๆ มีการขับเคลื่อนการทำงานในรูปแบบประชารัฐ 7 ภาคี มีการประชา สัมพันธ์เชิญชวนส่วนราชการ ภาคเอกชน รัฐวิสาหกิจ กลุ่มองค์กรและเครือข่ายต่าง ๆ ในการสวมใส่ผ้าไทย ภายใต้กิจกรรม “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” ตามพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญ ญา มีการรณรงค์ลดการใช้ถุงพลาส ติก ภายใต้คำขวัญ “ชาวนครพนมภาคภูมิใจ สวมใส่ผ้าไทยทุกวัน” และมีการลงนามความร่วมมือ 73 หน่วยงานในการรณรงค์ส่งเสริม สนับสนุนการใช้และสวมใส่ผ้าไทย นำมาซึ่งรายได้ให้กับกลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการประเภทผ้าและเครื่องแต่งกายในจังหวัด ทำให้ชุมชนมีรายได้จากการจำหน่ายผ้าและเครื่องแต่งกาย ในปี 2564 รวมเป็นเงิน 477,720,070 บาท ทั้งยังมียอดสั่งซื้ออย่างต่อเนื่อง และในครั้งนี้ก็นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้อีกครั้งที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวจังหวัดนคร พนมและพสกนิกรชาวไทย ที่จะทำให้ชุมชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีรายได้เพิ่มมากยิ่งขึ้นจากแบบลายผ้าพระราชทาน “ผ้าขิดลายนารีรัตนราชกัญญา” ที่ทรงออกแบบให้เว้นช่องว่างไว้ เพื่อให้ราษฎรได้ร่วมถักทอลวดลายของตนเองลงในช่องว่าง เป็นการสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากแต่ละท้องถิ่น.
Discussion about this post