
เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2565 นาวาเอก ณัฏฐ์ จรัสกุล หัวหน้าศูนย์ความมั่นคงท่าเรือจังหวัดระนอง (ศรชล.ภาค 3) เปิดเผยว่าได้รับการร้องเรียนจากผู้เดินเรือทั้งในส่วนของเรือประมง เรือพาริชย์ เรือท่องเที่ยว ที่ต้องใช้เส้นทางทะเลอันดามันที่แบ่งเส้นแนวเขตระหว่างจังหวัดระนองกับจังหวัดเกาะสองประเทศเมียนมา ว่าได้กลุ่มคนซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นคนไทยหรือชาวเมียนมา นำอวนปากเสือซึ่งเป้นเครื่องมือประมงทำลายล้างสัตว์น้ำจำนวนมาก มาวางบนเส้นทางการเดินเรือเพื่อดักจับสัตว์น้ำ ทำให้การเดินเรือทุกชนิดเป็นไปด้วยความยากลำบากและเป็นอันตรายเสี่ยงทำให้เรือเสียหายหรือเรือจมได้หากขับเรือไปชน โดยช่วงเวลากลางคืนที่มองไม่เห็น ขอให้ทางเจ้าหน้าที่ช่วยตรวจสอบและเข้าทำลายออกจากพื้นที่การสันจรทางน้ำพร้อมหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
จึงได้ประสานกำลังกับเจ้าหน้าที่ศูนย์ประสานงานประมงชายแดนทางทะเลไทย-เมียนมา เจ้าหน้าที่หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ เจ้าหน้าที่ประมงจังหวัดระนอง และชาวประมงพื้นที่ในพื้นที่ใกล้เคียง นำเรือออกตรวจสอบในบริเวณที่น่านน้ำไทย-เมียนมา ซึ่งเป็นเส้นทางการเดินเรือของทั้ง 2 ประ เทศ โดยทำการตรวจสอบในฝั่งน่านน้ำไทย พื้นที่ ม.1 ต.ปกน้ำ อ.เมืองระนอง

ซึ่งการตรวจสอบว่าอวนปากเสือจะถูกวางไว้บริเวณต้องรอช่วงน้ำขึ้นน้ำลง เนื่องอวนจมอยู่ใต้น้ำช่วงน้ำขึ้น พอช่วงน้ำเริ่มลงอวนจะโผล่ขึ้นมาให้เห็น เจ้าหน้าที่ตรวจนับด้วยสายตาในเบื้องต้นน่าจะมีอวนถูกวางไว้ไม่ต่ำกว่า 50 ปาก เมื่อเห้นอวนโผล่ขึ้นมา เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายต้องรับเข้าทำลายอวนดึงขึ้นมาจากทะเล เนื่องจากเวลามีจำกัดก่อนอวนจะจมน้ำอีกครั้ง เจ้าหน้าที่เข้าทำลายอวนได้บางส่วนเนื่องจากเวลามีจำกัด และต้องรอเวลอีกจนกว่าอวนจะโผล่น้ำขึ้นมาอีก ต้องทำลายให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้การเดินเรือเป็นไปด้วยความปลอดภัย และหลังจากนี้จะได้ให้ทางประมงจังหวัดระนองนำของกลางเข้าทำการแจ้งความร้องทุกกับพนักงานสอบสวน สภ.ปากน้ำระนอง เพื่อหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ในส่วนของทหารจะออกกหาข่าวเพิ่มในพื้นที่ทางทะเลร่วมกับชาวประมงพื้นที่บ้าน เพื่อสืบหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายเช่นกัน.
Discussion about this post