นทท.ขโมยหินบนเกาะ เจอดีคำสาปเจ้าพ่อตะรุเตา ส่งหินกลับคืนผ่านพัสดุ ทั้งจากต่างจังหวัด และต่างประเทศ บางรายเจอทั้งเจออาถรรพ์ เจอทั้งผีหลอก !!
วันที่ 8 มีนาคม 2565 ผู้สื่อข่าวราย งานว่า เพจของสำนักงานอุทยานแห่งชาติตะรุเตา จังหวัดสตูล ได้โพส์ข้อ ความคำว่า ยังกลับมาเรื่อยๆของหินงาม ไปเที่ยวเกาะหินงามทั้งที ยังเก็บภาพสวยๆไว้เยอะๆ แต่ไม่เก็บหินกลับบ้าน หรือเอาออกจากเกาะนะครับ พร้อมรูปภาพ หินทรงลายสวยงาม และข้อความกระดาษ1 แผ่นที่เขียนคำว่า เมื่อ20 ปีที่แล้ว ได้มาเที่ยวที่เกาะหินงาม และได้เก็บก้อนหินก้อนนี้กลับไปเป็นของที่ระลึก เพราะสวย งามมาก และไม่ทราบว่ามีป้ายห้ามเก็บ เมื่อทราบจึงได้ส่งคืนกลับมา และขอขมาเจ้าพ่อตะรุเตา ไม่มีเจตนา ขอได้โปรดอโหสิกรรม สาธุ

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่สำนัก งานของอุทยานฯและได้เข้าพบ นายมุมีน มาลินี ผู้ช่วยอุทยานแห่งชาติตะรุเตา พร้อมกับนางจันทนา หมีนหวัง เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเกาะตะรุเตา ได้นำกล่องพัสดุ 2 กล่อง ซึ่งในกล่องนั้นบรรจุ ก้อนหินสีดำ ทั้งก้อนเล็ก ก้อนใหญ่ บางก้อนถูกนำไปเจียรไนเป็นลูกกลมๆ บางกล่องหินมีขนาดใหญ่เท่ากำปั้นมือ มีกระดาษข้อความที่เขียน ขอขมาเจ้าพ่อตะรุเตา ที่ได้หยิบก้อนหินไปจากเกาะหินงาม
นายมุมีน มาลินี ผู้ช่วยอุทยานแห่งชาติตะรุเตา กล่าวว่า ในแต่ละเดือนมีกล่องพัสดุบางกล่องจ่าชื่อเพียงแค่จังหวัดที่อยู่ภาคเหนือ กลาง อีสาน และบางกล่องมาจากต่างประเทศ สหรัฐอเมริกา และประเทศเยอรมัน จีน ก็มี โดยในกล่องบรรจุก้อนหิน ซึ่งก้อนหินเหล่านี้เป็นก้อนหินจากเกาะหินงาม ซึ่งเป็นเกาะสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเล อยู่บริเวณใกล้เกาะอาดัง -ราวี ตำบลเกาะสาหร่าย อำเภอเมือง จังหวัดสตูล
คาดว่านักท่องเที่ยวไปเที่ยวและเห็นความสวยงาม ยามที่น้ำทะเลคลื่นซัดกระทบหินทำให้หินถูกน้ำมีความแวว วาว สวยงาม จึงทำให้นักท่องเที่ยวหยิบขโมยกลับไป จนกระทั่งเกิดอาถรรพ์จากหินเหล่านี้ เพราะบนเกาะหินงาม มีศาลเพียงตา ที่มีการกราบไหว้บูชา คนในพื้นที่รู้จักดีว่า ศาลเจ้าพ่อตะรุเตา ซึ่งคาดการณ์ว่า นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ หยิบกลับไปไว้ที่บ้านเพราะความสวยงาม แต่กลับเจอดี เจออาถรรพ์จากก้อนหิน บางคนเกิดกับชีวิตครอบ ครัว เป็นโรคภัยไข้เจ็บ ทำมาค้าขายไม่ขึ้น เพราะคิดว่าเกิดจากหินก้อนนี้ที่เก็บกลับมา จนสืบเรื่องราวของหินจากเกาะหินงาม ว่า มีศาลเจ้าพ่อตะรุเตา จึงคิดว่า น่าจะเป็นอาถรรพ์ความน่ากลัวมาหลอนจึงต้องส่งหินกลับคืนสู่อุทยานฯให้ช่วยนำกลับไปไว้ที่เดิม
ส่วนนักท่องเที่ยวต่างประเทศมาเที่ยวและเก็บหินกลับไปก็ต้องส่งพัสดุบินข้ามประเทศคืนกลับมา และเขียนข้อความว่า มีคนไปเข้าฝัน และชี้หน้าสั่งให้เอาหินส่งคืนกลับ จะเกิดความโชคร้ายในครอบครัว ก็ส่งกลับมาทันที ซึ่งคำเหล่านี้เป็นข้อความกระดาษ คำบอกเล่าของผู้ที่ส่งก้อนหินกลับคืนมา

ด้าน นางจันทนา หมีนหวัง เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเกาะตะรุเตา ผู้ที่คอยจัดเก็บส่งต่อให้เจ้าหน้าที่อุทยานฯประจำเกาะนำกลับไปคืนที่เดิม กล่าวว่า กล่องพัสดุมีมาทุกเดือน และเดือนมีนาคมนี้ส่งมา 2 กล่อง เป็นของคุณยายวัย 80 ปี ที่ส่งหินกลับคืนมา โดยแนบเบอร์โทรไว้ ทางตนเองโทรกลับไปแจ้วว่า หินที่ส่งมาได้รับแล้ว ญาติทางคุณยายวัย80 ปี บอกว่า คุณยายรู้สึกผิด และขอขมาเจ้าพ่อตะรุเตาที่หยิบกลับไป โดยตนเองมาเที่ยวเมื่อ 20 ปี ก่อน แต่ไม่ได้พูดอะไรมาก เพียงเขียนในกระดาษว่า ขอขมาเจ้าพ่อตะรุเตาที่หยิบกลับไป ส่วนปีที่แล้วก็มีการส่งพัสดุกลับคืนมาแบบนี้ ประ มาณ 20 กว่ากล่อง บางกล่องหินมีขนาดใหญ่หนักถึงครึ่งกิโลกรัมก็มี ทางเราได้หินกลับคืนมาก็ส่งกลับคืนสู่เกาะธรรมขาติต่อไป และก็ติดป้ายไว้ที่เกาะ ห้ามหยิบกลับไป ถ่ายรูปได้ เพราะเกาะหินงามแห่งนี้มีอาถรรพ์
เกาะหินงาม เป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะอาดัง-ราวี อยู่ห่างจากเกาะอาดังประมาณ 2.5 กิโลเมตร ส่วนการเดินทางนั้น ถ้าจะให้สะดวกควรเหมาเรือหางยาวจากเกาะหลีเป๊ะไป ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที ก่อนถึงเกาะหินงามจะผ่านเกาะจาบัง ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆ
จุดเด่นของเกาะแห่งนี้ ถึงแม้จะเป็นเพียงเกาะเล็กๆแต่เกาะหินงามก็มีความพิเศษที่หาเกาะใดเหมือน นั่นคือเป็นเกาะที่ไร้หาดทราย เป็นหาดหินทั้งเกาะ บริเวณด้านหน้าหาดนั้นมีหินก้อนกลมมมีขนาดเท่าๆกัน ยามน้ำทะเลซัดขึ้นมา หินเหล่านี้จะเปียกชุ่มส่องประกายมันวาวสะท้อนไปทั่วหาด หินทุกก้อนที่หาดแห่งนี้มีคำสาปเจ้าพ่อตะรุเตา ห้ามนำ เคลื่อนย้ายออกจากเขตอุทยานแห่งชาติ.
Discussion about this post