ประจวบฯ จับมือ มรภ.เพชรบุรี ยกระดับคุณภาพการศึกษาพัฒนา 4 โรงเรียนต้นแบบ 

เมื่อวันที่ 9 มี.ค.65ที่ห้องประชุมชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราช การจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย นายทรงศักดิ์ โต๊ะทอง ศึกษาธิ การจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายธีระชัย รัตนรังษี รองผู้อำนวยการ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาประ จวบคีรีขันธ์ นายมังกรแก้ว ดรุณศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ เขต 1 นายบุญถิ่น มหาสาโร ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประ ถมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ เขต 2 และผู้บริหารสถานศึกษา 4 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนบางสะพานน้อยวิทยาคม โรงเรียนธนาคารออมสิน โรงเรียนบ้านพุน้อย โรงเรียนบ้านห้วยไคร้ ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการกับมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี นำโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เสนาะ กลิ่นงาม อธิการบดีมหา วิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี และคณะ มีหลักการสำคัญคือการพัฒนาและยกระดับคุณภาพการศึกษา และสร้างโรงเรียนต้นแบบเพื่อขยายผลไปสู่โรงเรียนอื่นๆในจังหวัดประจวบคีรี ขันธ์

โดยมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี จะมีบทบาทหน้าที่ในการสนับสนุนและส่งเสริมโดยใช้องค์ความรู้และนวัต กรรมด้านการศึกษาสู่การพัฒนาครู บุคลากร นักเรียน และโรงเรียนให้มีคุณภาพ สนับสนุนงบประมาณและบุคลากรที่มีคุณภาพด้านการศึกษา เพื่อร่วมดำเนินการแบบบูรณาการและการมีส่วนร่วม ยกระดับคุณภาพการศึกษาอย่างเป็นระบบ ส่วนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีบทบาทหน้าที่ในการให้ข้อมูล เชื่อมประสานงานระดับพื้นที่ รวบรวมปัญหาเพื่อขอรับการสนับสนุนทางด้านวิชาการ อำนวยความสะดวกด้านต่างๆ ในการดำเนินงาน ซึ่งผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินงานตามความร่วมมือทางวิชาการในครั้งนี้ คือ เกิดระบบและกลไกความร่วมมือในการสนับสนุน การสร้างความเข้มแข็งและยกระดับคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนใน จ.ประจวบฯ นักเรียนที่เข้าร่วมโครง การมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น และสามารถปรับตัวและรู้เท่าทันกับสภาวะการณ์ที่เปลี่ยนแปลงในสังคมโดยใช้หลักธรรมเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต ครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับการพัฒนาในด้านวิชา การจนสามารถสร้างโรงเรียนต้นแบบด้านคุณภาพ และคุณธรรม จำนวน 4 โรงเรียนดังกล่าว เมื่อได้รูปแบบการดำเนินงานด้านการจัดการศึกษา (โมเดลต้นแบบ)ที่มีคุณภาพแล้วจึงขยายผลไปสู่การพัฒนาศักยภาพทางการศึกษาให้แก่โรงเรียนอื่น ๆ ใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ต่อไป โดยมีระยะเวลาดำเนินโครงการดังกล่าว 2 ปี ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2565 – มีนาคม 2567.