รอง ผบ.ตร.ปล่อยกำลังเจ้าหน้าที่ตามจับฉุย เขาคาว ​ 

ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวคืบหน้ากรณีที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ลงพื้นที่จังหวัดพัทลุง เพื่อติดคามคดีที่คนร้ายกลุ่มของนายจำรัส รักจันทร์ หรือฉุย เขาคาว ผู้ต้องหาที่มีคดีติดตัวอยู่เป็นจำนวนมาก ใช้อาวุธปืนยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราม บก.6 สงขลา เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บ 2 นาย ส่วนคนร้ายสัยชีวิต 1 คน ผู้ต้องหาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้แล้ว 1 คน ที่ยังเหลืออย่างน้อย 2 คน ได้หลบหนีเข้าป่าในพื้นที่รอยต่อจังหวัดพัทลุงและจังหวัดสงขลา ทางเจ้าหน้าที่ก็ยังจัดชุดไล่ล่าคนร้ายอย่างต่อเนื่อง มีผู้ต้องหาที่ทางตำรวจพัทลุงได้ออกหมายจับไปแล้วจำนวน 4 ราย มีนายจำรัส รักจันทร์ หรือฉุย เขาคาว อายุ 44 ปี นายอัณฐพล  หรือรวย  ไหมอ่อน อายุ 21ปี นายเกรียงไกร ชัยพูล ไม่ทราบอายุและนายพงศกร หรือเจ  สุวรรณมะโน อายุ 22 ปี (เจ้าหน้าที่จับได้แล้ว

และเมื่อเวลาประมาณ  22.00  น.วันที่  11  มี.ค.ที่ผ่านมา  ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง  พล.ต.อ.สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.  ได้เป็นประธานในการประชุมการไล่ล่ากลุ่มคนร้ายดังกล่าว  โดยมี  พล.ต.อ.สุชาติ  ธีระสวัสดิ์  รอง ผบ.ตร.(สส.)  พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร.  พล.ต.ท.นันทเดช  ย้อยนวล ผบช.ภ.9 พล.ต.ท.จิรเดช ภูมิเดช ผบช.ก พล.ต.ต.ทิวธวัช นครศรี ผบก.สส.ภ.9  และ  พล.ต.ต.ตานิตย์  รามดิษฐ์   ผบก.ภ.จว.พัทลุง  และคณะ ได้ร่วมประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง  และมีการมอบหมายให้กำลังตำรวจในแต่ละชุดได้ออกปฏิบัติในการไล่ล่ากลุ่มคนร้ายที่ถูกออกหมายจับตามพื้นที่เป้าหมายและพื้นที่จุดสงสัยเข้าไปซ่อนตัวของคนร้ายอย่างต่อเนื่อง  โดยทาง  ผบ.ตร.ได้ประกาศว่า  ตร.ชุดต่างๆโดยเฉพาะ  ตร.สอบสวนกลางจะไม่ถอนกำลังโดยเด็ดขาดหากไม่สามารถจัดการกับกลุ่มคนร้ายได้ไม่ว่าจะเป็นการจับเป็นหรือจับตาย  ซึ่งในการปฏิบัติการดังกล่าวนี้หากมีความจำเป็นเร่งด่วนก็อาจจะใช้เฮลิคอปเตอร์ของตำรวจมาใช้ในการไล่ล่ากลุ่มคนร้ายตามพื้นที่ต้องสงสัยด้วยตร.ชุดปราบปรามผู้มีอิทธิพลมือปืนรับจ้างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  และ กำลังตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษ  แดนไทย  54  ประมาณ  150  นาย  เข้าปิดล้อมตรวจค้นกลุ่มคนร้ายที่สืบทราบว่า  นายจำรัส  รักจันทร์  หรือ “ นายฉุย  รัตภูมิ “ และพวก  ซึ่งมีอาวุธปืนครบมือ  เข้ามาหลบซ่อนตัวในขนำหลังหนึ่ง  ในสวนปาล์มน้ำมัน  ต.เขาพระ  อ.รัตภูมิ  จ.สงขลา

และเมื่อเวลา 06 .00 น.วันที่  12 มี.ค.นี้  ที่บริเวณหน้าตู้ยามทางหลวงพรุพ้อ  อ.รัตภูมิ  จ.สงขลา    พล.ต.อ.สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.  ได้มอบหมายให้  พล.ต.อ.สุชาติ  ธีระสวัสดิ์  รอง ผบ.ตร.(สส.)  ปล่อยแถวการะดมกวาดล้างกลุ่มคนร้ายที่ได้ออกหมายจับไปแล้ว ตามพื้นที่เป้าหมายต่างๆทั้งในพื้นที่  จ.พัทลุง   จ.สงขลา และ อ.ควนกาหลง จ.สตูล พร้อมทั้งเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทุกสังกัดได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง  เนื่องจากกลุ่มคนร้ายโดยเฉพาะนายจำรัส รักจัทร์  หรือฉุย เขาคาว    หน.แก๊งคนร้ายนั้นมีประวัติร้ายและโหดเหี้ยม  และเชื่อได้ว่าจะต้องมีอาวุธปืนสงครามพร้อมกระสุนปืนไว้ติดตัวอย่างเต็มที่  ซึ่งพร้อมที่จะยิงต่อสู้กับ  ตร.โดยทันที

​สำหรับการปฏิบัติการไล่ล่ากลุ่มคนร้ายในครั้งนี้  ทาง  ผบ.ตร.ได้นำเฮลิคอปเตอร์ของตำรวจมาเสริมกำลังด้วย  แต่การเข้าปฏิบัติการในครั้งนี้กลุ่มคนร้ายได้พากันหลบหนีไปได้อย่างหวุดหวิด  โดยพากันวิ่งหลบหนีออกจากพื้นที่ดังกล่าวไปก่อนที่  ตร.จะบุกเข้าจู่โจมจับกุมประมาณ   10  นาที  ทางด้าน  ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้  พล.ต.อ.สุชาติ  ธีระสวัสดิ์  รอง ผบ.ตร.(สส.)  พร้อมพวก  ออกติดตามไล่ล่ากลุ่มคนร้ายอย่างกระชั้นชิด  

สำหรับกำลังเจ้าหน้าที่ที่แบ่งกำลังออกเป็นหลายชุดนอกจากชุดใหญ่ลงพื้นที่กดดันและใช้ ฮ บินตรวจแล้ว มีการเดินเท้าเข้าไปในป่าและขับรถตระเวนในเขตรอยต่อจังหวัดพัทลุง สงขลาและ อำเภอควนกาหลง จังหวัดสตูล เนื่องจากมีข่าวรายงานว่ากลุ่มคนร้าย ได้หลบหนีเข้าป่าลึกและสามารถเดินเท้าไปไปยังจังหวัดสตูลได้ โดยใช้เวลาเดิน 4-5 ชั่วโมงเท่านั้น และเป็ฯที่น่าสังเกตว่าทีมงานคนใกล้ชิดกับนายจำรัส หรือฉุย เขาความ ส่วนใหญ่จำเป็ฯวัยรุ่นอายุไม่เกิน 30 ปี ที่อยู่ในพื้นที่ ต.ทุ่งนารี อ.ป่าบอน จ.พัทลุงและ บ้านเขาคาว ต.ชะมวง อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ได้หายตัวไปจากหมู่บ้านจำนวนหนึ่งด้วย 

แหล่งข่าวผู้ชำนาญการเดินป่าพื้นที่บริเวณดังกล่าวเผยว่า ถ้าหากเป็นความจริงที่ว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในป่าเขาบรรทัด เขต รอยต่อ 4 จังหวัด การทำงานของเจ้าหน้าที่จะเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากป่าเขาบรรทัด สามารถเดินข้ามเขาไปได้ทั้ง 4 จังหวัด ไม่ว่าจะเป็นพัทลุง สงขลา สตูลและบ้านในตระจังหวัดตรัง เมื่อเดินไปถึงจุด 3 เหลี่ยมภูเขา สามารถเดินลงไปยัง น้ำตกวังใต้หนาน อ.มะนังจ.สตูล อ.ปะเหลียน จ.ตรัง และ อ.ป่าบอน จ.พัทลุง ใช้เวลาเดินเท้าเพียงไม่กี่ชั่วโมง และพื้นที่ป่าบริเวณรอยต่อโดยเฉพาะเชิงก็มีชาวบ้านเข้าไปทำมาหากินอยู่แล้ว คนร้ายสามารถขอความช่วยเหลือด้านอาหารได้ และนายฉุย ก็มีเพื่อนฝูง และมีญาติพี่น้องที่อยู่อาศัยบริเวณเชิงเขาบรรทัดอยู่แล้วด้วย