เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่14 มีนาคม 2565 นายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือทนายโป้ง ประธานชมรมทนายความจิตอาสา ลงพื้นที่ บริเวณชุมชนบางพัง หมู่ 3 ตำบลบางพูด อำเภอปาก เกร็ด จังหวัดนนทบุรี หลังจากทางชาวบ้าน กว่า 20 หลังคาเรือนร้องเรียนว่า ถูกหมู่บ้านจัดสรรขนาดใหญ่ มาทุบสะพานที่ชาวชุมชุนใช้สัญจรไปมาหลาย10 ปี ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนรถจยย.ที่เคยขับผ่านไปมา คนป่วยจะไปหาหมอ เด็กนักเรียนจะไปโรงเรียนต้องเดินอ้อมไปไกลหลายกิโล เคยร้องเรียนเทศบาลนครปาก เกร็ด ร้องเรียนกรมเจ้าท่า ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอปากเกร็ด และเคยไปแจ้งความที่สภ.ปากเกร็ดแต่เรื่องเงียบจึงอยากให้ทางทนายโป้งช่วยเหลือและติดตามความคืบหน้ากับทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยลงมาแก้ไข
นางสาวสุริน ตินตะโมระ อายุ 72 ปี (เสื้อสีเทา) กล่าวว่า ตนใช้เส้นทางนี้มา ตั้งแต่ยายยังไม่ตาย ตรงหมู่บ้านตนไม่สามารถออกได้ เนื่องจาก โดนปิด ตอนนี้ต้องมาออกอีกทาง เป็นสะพานริมคลอง ก่อนที่ทุบสะพานใหญ่คนทุบสร้างสะพานไม้ไว้ให้ ตนเคยบอกเขาว่ามาทุบ สะพานใหญ่ทำไมเนื่องจากเป็นของหลวง ไม่ใช่เป็นของหมู่บ้าน เขาบอกเขาซื้อที่แล้วทุบได้ ตน ลืมไปว่าที่ของหมู่บ้านมาไม่ถึงสะพาน เขาบอกถ้าสร้างหมู่บ้านเสร็จจะทำสะพานให้ออก ตนไม่รู้เหมือนกันว่าต่อไปจะออกได้ไหม
นางเรี่ยม ท้องช้าง อายุ 75 ปี (เสื้อแดง) กล่าวว่า หลังจากทุบสะพานตนเดือดร้อนมากใส่บาตรลำบากพระยืนไม่ได้กลับรถก็ไม่ได้ เวลา Grab มาส่งของก็ลำบากเมื่อก่อนยังพอกลับรถได้ ก่อนหน้านี้พระยืนบนสะพานได้ ตอนนี้ยืนไม่ได้ พระมาเจอยังตกใจสะพานหายไปไหน ใส่บาตรก็ลำบาก เพราะเอาสะพานเราไปตอนนี้เดือดร้อนมาก อยากได้สะพานคืนมา ตอนทำตอนแรกไม่มีการประชาคมและไม่มีการปิดป้ายบอกก่อน อยู่ดีๆเอาแม็คโครมาทุบ ไม่มีหน่วยงานไหนมาช่วยดู ควรจะติดป้ายป้ายบอกก่อนจะได้เตรียมตัวทัน
ด้านนายจิรวัฒน์ ท้องช้าง อายุ 45 ปี(เสื้อเขียว) กล่าวว่า เมื่อวันลอยกระทง ช่วงประมาณ 09.00 น. เมื่อปี 2564 ตนขับรถมาเห็นช่างกำลังทุบสะพาน โดยไม่มีป้ายแจ้งซึ่งสะพานนี้พวกตนกับชาวบ้านใช้อยู่ ตนเลยมาถามป้าข้างบ้าน เขาทุบสะพานแล้วเราจะข้ามยังไง เลยชวนกันไปคุยกับช่างที่กำลังทุบสะพานเขาหยุดแป๊บนึง แล้วทำต่อตนเลยไม่รู้จะไปติดต่อหน่วยงานไหน ได้แต่นั่งดูและถ่ายรูปไว้จนเขาทำเสร็จตอนทุบสั่นมาถึงที่บ้าน แผ่นปูนตกลงไปในน้ำ ตนเลยไปถามว่า จะเอาออกไหมเนื่องจากฝนตกน้ำระบายไม่ทันเดี๋ยวน้ำจะท่วมและเพราะแผ่นปูนไปขวางอยู่ ตอนนี้ได้รับความเดือดร้อนมาก ไม่รู้จะทำยังไงไม่รู้จะอ้อมไปทางไหน ก่อนหน้านี้ตนจะไปหาญาติอยู่ห่างกันแค่ 50 เมตรเดินไปหาได้เลย แต่ตอนนี้ ดึกๆดื่นๆ ต้องเดินอ้อมไป 3-4 กิโล ซึ่งเดือดร้อนจริงๆ ส่วนสะพาน ที่ทุบสร้างมาประมาณ 10 ปี ใช้เดินไปมาหาสู่กับญาติพี่น้องและเพื่อนบ้าน มีทั้งคนแก่และเด็ก เวลาใครป่วยจะตะโกนเรียก และเดินข้ามสะพานเพื่อจะไปหาหมอ แต่ตอนนี้ทำไม่ได้แล้ว อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาดู เพราะไม่มีใครตอบได้ว่ารื้อสะพานไปแล้ววันข้างหน้าจะทำให้เหมือนเดิมหรือเปล่า ถ้าเข้าไม่ได้เหมือนเดิมพวกตนมีผลกระทบ 100% แน่นอน คนแก่สัญจรไปมาไม่ได้ รถก็เข้าไม่ได้ ยังมองไม่เห็นทางออกที่เขาบอกว่าเสร็จแล้วจะทำให้เลยเป็นแบบนี้จะต้องทำยังไง ฝากเจ้าหน้าที่เทศบาลนครปากเกร็ดเข้ามาดูขอสะพานเก่าคืนทำให้เหมือนเดิมจะก่อสร้างอะไรก็แล้วแต่ เรื่องของคุณ ขอความสะดวกสบายให้กับพวกตนเพราะตอนนี้รถใหญ่เข้าไม่ได้ก็ลำบากพออยู่แล้ว ถ้าไม่มีสะพาน ไม่รู้จะทำยังไงและไม่รู้จะติดต่อใครวอนผู้ใหญ่ช่วยดูและแก้ไขใหเล้ด้วย
ส่วน นางชญาภา ตินตะโมระ อายุ61 ปี(เสื้อเหลือง) กล่าวว่า ตนได้ไปแจ้งความไว้ที่สภ. ปากเกร็ดว่าบริษัทนี้ทำโดยพละการทำเสร็จแล้วยังเอาอิฐ หิน ดิน ทรายไปถมในที่ของคนอื่น หลังจากแจ้งความได้เดินทางไปที่เทศบาลนครปากเกร็ด แล้วไปที่กรมเจ้าท่า ทางกรมเจ้าท่าบอกว่าต้องทำประชาพิจารณ์ก่อน ทางผอ. กรมเจ้าท่าบอกว่าทำแบบนี้ไม่ถูก ถ้าประชา ชนเห็นชอบหรือเป็นประโยชน์ต่อประชาชนไม่เป็นไร แต่ถ้าประชาชนร้องเรียนต้องแก้ไข เพราะไม่ถูกต้อง หลังจากแจ้งทางกรมเจ้าท่าก็เงียบไป ตนเลยไปแจ้งศูนย์ดำรงธรรมทางศูนย์ดำรงธรรมประสานไปที่เทศบาลนครปากเกร็ดตอบมา ไม่ตรงประเด็น ส่วนที่สภ.ปากเกร็ดไม่มีอะไรคืบหน้าเรื่องเงียบ ไม่รู้ว่าเขาไปติดต่อกับทางบริษัทอย่างไรบ้าง ตอนนี้อยากให้ทำสะพานเหมือนเดิมเนื่องจากมีคนแก่เยอะ ไม่อยากให้เอื้อ ประโยชน์ให้เอกชน มากเกินไป ไม่เมตตาชาวบ้าน แค่ทำให้เอกชนเข้าไปในที่ของตัวเองได้แค่นั้นเอง อยากจะร้องเรียนไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือกรมเจ้าท่า มาดูหลายครั้งแล้ว ยังไม่มีคำตอบเลย ทางศูนย์ดำรงธรรม ยังดีติดต่อมาบ้าง อยากให้นายกวิชัย บรรดา ศักดิ์ที่เป็นที่พึ่งประชาชนลงมาดูและหาทางออกให้
ทางด้านทนายโป้ง กล่าวว่า หลังจากได้รับการร้องเรียนจาก พี่น้องชาวตำบลบางพูดอำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี จึงได้ลงพื้นที่มาพบสภาพที่สะพานของเก่าที่มีอยู่พังทลายลงไป ด้วยเครื่องจักรจากการสอบถามชาวบ้าน ได้รับความเดือดร้อนเบื้องต้นทราบว่าไปแจ้งความไว้ที่ สภ.ปาก เกร็ด ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปี 2564 ถึงตอนนี้ล่วงเลยมากว่า 3 เดือน ตนจะพาชาวบ้านทั้งหมดไปที่สภ.ปากเกร็ดเพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี หาผู้กระทำความผิดผู้ที่มาทุบสะพาน โดยมิชอบ เนื่องจากเป็นสะพานสาธารณะ แล้วจะไปติด ตามร้องเรียน กับท่านนายกเทศมน ตรีเทศบาลนครปากเกร็ด เพื่อสอบ ถาม ทางเทศบาล ว่าสะพานนี้ดูแลยังไง เป็นทรัพย์สินของเทศบาลหรือไม่ และจะมีทางบรรเทาความเดือดร้อน เดินจากชาวบ้านต้องใช้สะพานเดินเข้าเดินออก ซึ่งตอนนี้เดือดร้อนหนักเพราะไม่มีสะพานแล้ว ไม่รู้จะมาสร้างอีกเมื่อไหร่ในเมื่อป้ายปักไว้ว่าเป็นปีจะสร้างเสร็จ ตอนนี้ผ่านมา 3-4 เดือนแล้ว ยังไม่มีวี่แววว่าจะมาทำอะไรเลย ทิ้งร้าง ว่างเปล่า ไว้แบบนี้ บอกว่า เดือน ธันวา 64 จะเสร็จ เดือน ธันวา คม 65 ตอนนี้เดือน มีนาคม 65 เหลือเวลาอีกไม่กี่เดือนจะหมดปี 65 แล้วยังไม่มีวี่แววจะทำอะไรตรงนี้เลย เบื้องต้นจะพาชาวบ้านไปติดตามคดีที่สภปากเกร็ดและติดตามคดีที่เทศบาลนครปากเกร็ด หากใครทำผิดกฎ หมายคนนั้นต้องรับผิดชอบ ทั้งทางอาญาและทางแพ่ง.
Discussion about this post