
วันนี้ 17 มีนาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา มีเฟสบุ๊ค ชื่อว่า PateemohPohitaedaohได้โพสต์ข้อความว่า #บทเรียนครั้งสำคัญ 3 วัน 2 คืน (15 – 17 มีนาคม 2565) สมาคมผู้หญิงเพื่อสันติภาพ we peace จัดกิจกรรมค่ายเยาวชน ที่ #เขื่อนบางลาง อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา น้องเข้าห้องประชุมตั้งแต่เช้าวันแรก (วันที่ 15 มีนาคม 2565) ด้วยความตระหนักเรื่องการป้องกัน เชื้อโควิด เจ้าหน้าที่ติดตั้งหลอดไฟฆ่าเชื้อยูวี ให้ห้องประชุมตลอดทั้งวัน ทั้งคืนที่ทำกิจกรรมในห้องประชุม เมื่อวานเด็กๆหลายคน เริ่มมีอาการระคายเคืองตา ตาเริ่มแดง แต่ยังสามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้ กลางดึกเวลาประมาณ 02.00 น. เด็กๆ พร้อมพี่ๆ ทีมงาน เกือบ 50 ชีวิต เริ่มตื่นพร้อมเสียงโอดโอย ลั่นทุกห้อง ด้วยอาการแสบตา น้ำตาไหล ตาแดง ลืมตาไม่ได้ นอนไม่ได้ ต่างออกมาหน้าห้องพักเพื่อรอความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ด้วยสถานที่อยู่กลางหุบเขา ลึกและเสี่ยงต่อการพาออกไป โรงพยาบาลบันนังสตา ทำได้แค่วิ่งหายาแก้ปวดรักษาในเบื้องต้น
#เช้านี้ ไม่นิ่งนอนใจ น้องๆเก็บเสื้อผ้า มารวมตัวที่ห้องประชุม ด้วยสภาพตาแดงช่ำ น้ำไหลไม่หยุด พยายามติดต่อทั้งเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า สำนักงานเขื่อน อนามัยในพื้นที่ และสำนักงานเทศบาลเขื่อนบางลาง จนมีเจ้าหน้าที่และเจ้าหน้าที่สถานพยาบาลเขื่อนบางลาง ขึ้นมาสอบถามเหตุการณ์ ผลปรากฏว่าเครื่อง UV ทำลายเชื้อโควิด จะต้องทำงานหลังจากเลิกกิจกรรม และจะต้องไม่มีใครอยู่ในห้องประชุม ขณะที่เครื่องทำงาน แต่พนักงานเปิดตลอดเวลาในขณะที่ทุกคนอยู่ในห้องประชุม (#งานนี้จะหาใครรับผิดชอบ) หลังจากทราบเหตุ เจ้าหน้าที่รีบทยอยพาเด็กๆขึ้นรถแอมบูแลนซ์ เพื่อไปตรวจอาการและแจกจ่ายยารักษาอาการเบื้องต้น
#บทเรียนครั้งสำคัญ #เขื่อนบางลาง #บันนังสตา
หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว เจ้าของเฟสบุ๊ค ที่ชื่อว่า Pateemoh Pohitaedaoh เจ้าของต้นเรื่อง ได้เข้าพบปะพูดคุย เพื่อขอความเป็นธรรมกับผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดยะลา กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

น.ส.ปาตีเมาะ เปาะอิแตดาโอะ นายกสมาคมผู้หญิงเพื่อสันติภาพ we peace กล่าวว่า ทางสมาคมผู้หญิงเพื่อสันติภาพ we peace ได้จัดกิจกรรมค่ายเยาวชน ในพื้นที่เขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา จ.ยะลา เริ่มแรกตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2565 สมาคมได้ทำการจองที่พักผ่านสำนักงานเขื่อนบางลาง ในเรื่องของการจัดประชุม ถือว่าเป็นกรุ๊ปแรกที่เข้าไปใช้บริการหลังจากที่ปิดสถานที่ไม่ได้ให้เปิดให้คนภายนอกเข้าไปใช้บริการ พอวันที่ 15 มีนาคม 2565 พร้อมเด็กๆ จำนวน 48 คนกับพี่เลี้ยงเข้าไปที่ห้องประชุมตั้งแต่ 9 โมงเช้า ก่อนเข้าห้องประชุมได้ทำการตรวจ ATK ตามแนวทางปฏิบัติของสาธารณสุข ให้กับเด็กเข้าร่วมประชุมทุกคน เข้าไปในห้องจะมีเจ้าหน้าที่มาบอกว่าจะเปิดเครื่องเพื่อจะสแกนเชื้อโควิด ได้แจ้งกับน้องๆว่าสถานที่ได้เข้มงวดเรื่องเชื้อโควิด เพราะฉะนั้นที่น้องๆเห็นทุกมุมในห้องจะมีเครื่อง UV ทำลายเชื้อโควิด จำนวน 3 ตัว เน้นย้ำกับน้องๆไม่ต้องไปจับต้อง เพราะเครื่อง UV มีราคาแพงกลัวหลอดจะแตก ซึ่งตอนที่เข้าไปในห้อง เครื่องก็เปิดใช้งานอยู่ แต่ไม่ทราบว่าเครื่องนั้นได้มีการทำระบบเปิด-ปิดเวลาเท่าไร ? เท่าที่ไปใช้บริการห้องนั้นไปตั้งแต่ เวลา 08.30 – 16.30 น. ของวันแรก ในคืนแรกตอน ในเวลา 19.00 – 21.00 น. มาวันที่ 2 เวลา 08.30 – 16.00 น. ยังอยู่ในห้องนั้น เมื่อเวลา 02.00 น. น้องๆมีอาการพร้อมกัน วันแรกรู้สึกเคืองตาคิดว่าน่าจะเป็นเพราะฝุ่น เด็กบางคนตายังเปิดไม่ได้พอเจอแสงจะลืมตาไม่ได้เจ็บแสบ
น.ส.ปาตีเมาะ เปาะอิแตดาโอะ นายกสมาคมผู้หญิงเพื่อสันติภาพ we peace ยังกล่าวอีกว่า ทางเขื่อนบางลาง มองเห็นข้อบกพร่องเวลาเกิดฉุกเฉินขึ้นมาในห้องประชุมควรจะมีเบอร์ติด เวลาเกิดเหตุด่วน เหตุร้าย ติดต่อได้ เพราะใช้เวลาค่อนข้างยาวนานมากที่จะหาเบอร์เพื่อติดต่อ เพื่อขอรับความช่วยเหลือ สุดท้ายนี้ตนเองก็อยากให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ออกมาอธิบายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และออกมาขอโทษกับเรื่องนี้ และนำเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นตัวอย่าง เพื่อไม่ให้เกิดขึ้นแบบนี้ต่อไป
Discussion about this post