
วันที่ 1 เม.ย.65 จากกรณี กลุ่มผู้ใช้น้ำบ้านห้วยโป่ง ต.ห้วยโป่ง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ร้องเรียนไปยัง พลเอก สุรพล ตาปนานนท์ ประธานมูลนิธิอาสาร่วมพัฒนาแม่ฮ่องสอน ว่าได้รับความเดือดร้อนประสบปัญหาภัยแล้ง ไม่มีน้ำจะทำการเกษตร เนื่องจากอ่างเก็บน้ำห้วยโป่งของชลประทานที่มาขุดให้ ระบบส่งน้ำไม่สามารถจ่ายน้ำได้ เนื่องจากท่อส่งน้ำที่ก้นอ่าง มีตะกอนและโคลนตมมาถมปากท่อ ทำให้เกษตรไม่สามารถนำน้ำมาทำการเกษตรได้
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงอ่างเก็บน้ำดังกล่าว พร้อมด้วยกลุ่มผู้ดูแลน้ำห้วยโป่งและเกษตรกรในหมู่บ้าน พบว่า อ่างเก็บน้ำห้วยโป้ง เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นทำนบดินขนาดสันอ่างยาว 102 เมตร สูง 17 เมตร มีความจุที่ระดับเก็บกักน้ำ 436,000 ลูกบาศก์เมตร ก่อสร้างในปี2532 โดยโครงการชลประทานจังหวัดแม่ฮ่องสอน สำนักงานชลประทานที่ 1 กรมชลประทาน
นายอำไพ ศิริวรินทร์ ประธานกลุ่มผู้ใช้น้ำห้วยโป่ง เปิดเผยว่า อ่างเก็บน้ำดังกล่าว รับน้ำจากลำห้วยโป่งเข้าสู่อ่าง เพื่อจ่ายน้ำไปยังพื้นที่เกษตรกรบ้านห้วยโป่ง 350 ไร่ และส่งน้ำต่อไปยังเกษตรกรอีก3 หมู่บ้านได้แก่ บ้าน งป่าลาน , บ้านทุ่งมะกอก และบ้านไม้ฮุง ต.ห้วยโป่ง เพื่อให้เกษตรกรทำ การเกษตร ปัจจุบันอ่างตื้นเขินมาก หน้าแล้งน้ำไม่เพียงพอ ประกอบกับปากท่อที่จ่ายน้ำไปยังเกษตรกรอุดดันไม่สามารถปล่อยน้ำออกจากอ่างได้ แม้จะปล่อยน้ำออกได้ น้ำก็ไม่เพียงพออยู่ดี อยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบช่วยมาขุดลอกอ่างให้ใหม่
นายกตัญญู ใจชื้น ผู้อำนวยการโครงการชลประทานแม่ฮ่องสอน ได้ชี้แจงผ่านเอกสารว่า การบริหารจัดการน้ำของอ่างเก็บน้ำห้วยโป่ง มีการจัดตั้งกลุ่มผู้ใช้น้ำอ่างเก็บห้วยโป่งโดยมีข้อตกลงและเงื่อนไขในการบริหารจัดการน้ำตามที่กลุ่มกำหนด โดยโครงการชลประทานแม่ฮ่องสอนจะเป็นผู้ร่วมประชุมและให้ข้อมูลรวมถึงคำแนะนำในการบริหารจัดการน้ำ ตั้งแต่ปี 2533เป็นตันมาจนถึงปัจจุบันเป็นเวลามากกว่า 32ปี ซึ่งในตอนแรกของการใช้น้ำปริมาณน้ำที่ไหลเข้าอ่างเก็บน้ำห้วยโป่งมีปริมาณมากและมีสภาพน้ำไหลอยู่ตลอดเวลา ซึ่งปริมาณน้ำที่มีมากทำให้น้ำล้น ทางระบายน้ำล้นโดยตลอด จนโครงการต้องเข้าไปดำเนินการซ่อมแซมทางระบายน้ำลันหลายครั้ง
ตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมาได้มีการตัดถนนในในบริเวณพื้นที่รับน้ำของตัวอ่างเก็บน้ำด้านบนและมีการตัดภูเขารวมทั้งดันดินเพื่อเปิดเส้นทาง ทำให้มีปริมาณดินตะกอนไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำเป็นจำนวนมาก ในช่วงฤดูฝนที่มีฝนตกและได้ชะล้างดินที่มีการไถเปิดไว้ไหลลงสู่อ่าง ประกอบกับในพื้นที่ด้านบนของอ่างเก็บน้ำเองที่เป็นพื้นที่รับน้ำมีการบุกเบิกพื้นที่ของราษฎรในการเพาะปลูกเป็นจำนวนมากจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดตะกอนดินทรายไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำแห่งนี้เป็นจำนวนมาก
ปี 2548 ได้เริ่มมีการอุดตันของท่อส่งน้ำของอ่างเก็บน้ำเป็นครั้งแรกเนื่อง จากตะกอน ซึ่งโครงการชลประทานแม่ฮ่องสอน ได้เข้าไปดำเนินการโดยการสูบน้ำจากด้านท้ายฉีดล้างดินตะกอนที่อยู่ในท่อและฉีดจนดินที่อยู่ในอ่าง บริเวณหน้าท่อออก ทำให้น้ำสามารถส่งต่อได้และได้สอนวิธีในการบริหารจัดการท่อส่งน้ำ เพื่อไม่ให้ท่อส่งน้ำตันอีก โดยการให้มีการเปิดน้ำเลี้ยงท่อตลอดเวลา ไม่ให้มีการปิดท่อส่งน้ำโดยสนิทไม่เช่นนั้นตะกอนจะกลับมาตกอีกได้

ปี 2550 โครงการชลประทานแม่ฮ่อง สอน ได้ เหมาบริษัทเข้ามาทำการขุดลอกหน้าอ่างเก็บน้ำโดยเรือขุด ปี 2555โครงการได้เข้าไปทำการอัดน้ำเข้าท่อส่งน้ำเพื่อให้ตะกอนออกมาอีกครั้งเนื่องจากน้ำไม่ไหล ปี2557-2562 ได้มีการทำการอัดน้ำเข้าท่อส่งน้ำเพื่อเอาตะกอนออกอีกจำนวน หลายครั้งร่วมกับชาวบ้านบ้านห้วยโป่ง ซึ่งมีการใช้น้ำได้อย่างต่อเนื่องไม่มีปัญหาในการส่งน้ำหน้าอ่างเก็บน้ำโดยเรือขุด เนื่องจากน้ำไม่ไหล ปี 2555 โครงการได้เข้าไปทำการอัดน้ำเข้าท่อส่งน้ำเพื่อให้ตะกอนออกมาอีกครั้ ปี2557- 2562ได้มีการทำการอัดน้ำเข้าท่อส่งน้ำเพื่อเอาตะกอนออกอีกจำนวนหลายครั้งร่วมกับชาวบ้านบ้านห้วยโป่ง ซึ่งมีการใช้น้ำได้อย่างต่อเนื่องไม่มีปัญหาในการส่งน้ำ ปี 2563 เมื่อวันที่21 กรกฎาคม 2563 ได้มีการเข้าไปร่วมกันอัดน้ำเข้าท่อเพื่อระบายตะกอนอีกครั้ง ปี 2564 กรมชลประ ทานได้มีโครงการช่อมแชมโครงการชลประทานอันเนื่องมาจากพระราช ดำริตามข้อเสนอของเกษตรกรในเขตจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยมีงานขุดลอกตะกอนคลองดินส่งน้ำอ่างเก็บน้ำห้วยโป่ง งบประมาณ 56,000 บาท ให้กับกลุ่มผู้ใช้น้ำอ่างเก็บน้ำห้วยโป่ง ซึ่งกลุ่มได้แจ้งกับทางโครงการว่าในการดำเนินการอัดน้ำเข้าท่อ ถ้าหากเกิดการอุดตันขึ้นอีก ทางกลุ่มจะดำเนินการเอง เพราะทางกลุ่มได้ร่วมมือกับทางโครงการชลประทานแม่ฮ่องสอนในการอัดน้ำเข้าท่อมาแล้วหลายครั้ง และมีความสามารถที่จะดำเนินการได้เองจากเหตุผลดังกล่าวข้างต้น โครงการชลประทานแม่ฮ่องสอน ได้มีกิจกรรมและมีความร่วมมือกับกลุ่มผู้ใช้น้ำของอ่างเก็บน้ำน้ำห้วยโป้งมาโดยตลอดและไม่เคยประสบปัญหาในการใช้น้ำแต่อย่างใด และที่อ้างว่าไม่ได้ใช้น้ำมากว่า 3 ปี แล้ว ก็เป็นการกล่าวอ้างที่เกินความจริง ซึ่งโครงการชลประทานแม่ฮ่อง สอน ได้เข้าไปประสานงานกับกลุ่มอยู่เสมอ และไม่ได้รับแจ้งจากกลุ่มในเรื่องท่อน้ำใช้ไม่ได้แต่อย่างใด คาดว่าคงจะใช้ไม่ได้เมื่อไม่นานมานี้และก็นำมาร้องตามข่าวที่ปรากฎ อีกทั้งที่กล่าวอ้างว่าติดพื้นที่ป่าก็เป็นการสอบถามของโครงการชลประทานแม่ฮ่องสอนเองว่า จะเสนอโครงการขุดลอกอ่างเก็บน้ำเข้ามาให้ เนื่องจากเห็นเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นและการขุดลอกจะต้องมีดินที่ต้องขุดออกมา และจะมีที่ทิ้งดินให้กับโครงการหรือไม่ในบริเวณของบ้านห้วยโป่ง ซึ่งราษฎรได้กล่าวว่าที่มีเยอะ แต่โครงการชลประทานแม่ฮ่องสอน ได้แจ้งว่าอยากให้เป็นที่สาธารณะของหมู่บ้าน เพราะถ้าไปทิ้งในพื้นที่ป่าจะมีปัญหาได้ ซึ่งการจะนำดินไปทิ้งในเขตป่า โครงการฯ จะต้องทำการขออนุญาตกับกรมป่าไม้เสียก่อน จึงจะดำเนินการได้
อนึ่ง โครงการชลประทานแม่ฮ่อง สอน ยังได้ประชุมเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2564 ซึ่งในที่ประชุมวันนั้นผู้นำกลุ่มผู้ใช้น้ำได้มีเรื่องขอให้โครงการชลประทานแม่ฮ่องสอน ปรับปรุงระบบส่งน้ำอ่างเก็บน้ำห้วยโป่งเพิ่มเติมจากของเดิม โดยโครงการฯ ได้บรรจุไว้ในแผนงานปี 2566 โดยเป็นคลอง คสล.ขนาดกันกว้าง 1.60 เมตร สูง 0.60 เมตร มีความยาวทั้งสิ้น 200 เมตร วงเงินประมาณ 1.00 ล้านบาทแล้ว ซึ่งไม่มีประเด็นในเรื่องอ่างเก็บน้ำไม่สามารถใช้การได้แต่อย่างใด แนวทางการแก้ไขเร่งด่วน โครงการได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกไปสำรวจและคุยกับกลุ่มผู้ใช้น้ำ โดยในเบื้องต้นจะเริ่มดำเนินการอัดน้ำเข้าท่อส่งน้ำ เพื่อล้างตะกอนในต้นเดือนเมษายนที่จะถึงนี้ โดยจะดำเนินการให้ท่อสามารถส่งน้ำได้อีกครั้ง ภายในวันที่ 12 เมษายน 2565ระยะต่อไป โครงการได้ประสานงานกับส่วนบริหารเครื่องจักรกลที่ 1 จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขอให้ตั้งแผนงานเข้าดำเนินการในปี 2565 นี้ หากสามารถดำเนินการได้ตามข้อสั่งการของอธิบดีกรมชลประทาน ซึ่งแต่เดิมมีแผนงานที่จะดำเนินการอยู่แล้วในปี 2566.
Discussion about this post