จากกรณีที่เป็นข่าวออกสื่อว่า ผู้ติดเชื้อพ้อเหมือนถูกทิ้ง ติดโควิดยกบ้านไม่มี อสม.มาดู หลังติดโควิดยกครอบครัวต้องกักตัวในบ้านทั้ง 8 คน มานานกว่าสัปดาห์ ไร้เงาหน่วยงานมาถามอาการ เพื่อนบ้านใกล้เคียงต้องช่วยกันส่งอาหารให้
สืบเนื่องเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2565 ครอบครัวของนางฐิติชยา (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี ที่มีทั้งพ่อ แม่ ป้า และ ลูกชายวัย 3 ขวบ รวม 8 คน ที่ต้องกักตัวในบ้านพัก ที่ ต.ริมใต้ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ หลังจากติดโควิด-19 กันทั้งครอบครัว ออกมาตัดพ้อกับผู้สื่อข่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม ที่ผ่านมา หลังกักตัวโควิดที่บ้าน ไม่มี เจ้าหน้าที่อื่นเข้ามาดูแลสอบถามอาการ ไม่มีการสนับสนุนอาหารการกิน หรือ ให้คำแนะนำในการรักษาตัวที่บ้าน ทำให้รู้สึกเหมือนถูกทอดทิ้ง ปล่อยให้ต่อสู้กับโรคโควิด-19 เพียงลำพัง
นางฐิติชยา เล่าว่า ป้าที่อยู่บ้านอีกหลังในรั้วเดียวกัน ติดโควิด 19 เมื่อวันที่ 24 มีนาคม ที่ผ่านมา หลังจากตรวจพบผลบวกจากชุดตรวจ ATK ตนเองได้พาป้าไปตรวจ RT-PCR ที่โรงพยาบาลนครพิงค์ ซึ่งทางโรงพยาบาลได้ให้ยาฟาวิพิราเวียร์ พร้อมกับอุปกรณ์วัดออกซิเจนเพื่อเข้าระบบรักษาตัวที่บ้านหรือ HI หลังจากนั้นทุกคนในบ้านก็ทยอยติดกันครบทุกคน คนล่าสุดคือพ่อ อายุ 67 ปี ที่ตรวจพบเชื้อเมื่อวันที่ 29 มีนาคม ทำให้ทุกคนในบ้านต้องกักตัวต่อไปอีก 10
วัน ไปจนถึงวันที่ 7 เมษายนนี้
หลังจากนั้นทุกคนได้รับผิดชอบต่อสังคมด้วยการกักตัวอยู่แต่ในบ้าน ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม จนถึงเป็นเวลา เป็นเวลา 13 วันแล้ว ยังไม่มีหน่วยงาน
หรือใครมาเหลียวแล เจ้าหน้าที่ในหมู่บ้านก็ไม่เข้ามาสอบถาม หรือแนะนำอะไร ทำให้ทุกคนต้องดูแลกันเอง ส่วนอาหารแต่ละมื้อ ช่วงแรกก็นำอาหารที่มีอยู่มาทำกินกันจนหมด จึงเตรียมออกจากบ้านไปหาซื้อหาอาหารเพิ่มเติม แต่โชคดีที่มีเพื่อนบ้านที่ทราบข่าว ได้ช่วยเหลือนำอาหารมาวางบนโต๊ะหน้าบ้านให้ หากไม่มีน้ำใจจากเพื่อนบ้าน ไม่รู้จะอยู่กันอย่างไร ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้น ทำให้รู้สึกเหมือนกับถูกทอดทิ้งจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
กระทั่งวันที่ 5 เมษายน จ.ส.อ.ประนม มาลารัตน์รองประธานสภาเทศบาลตำบลแม่ริม พร้อมด้วยสมาชิก กลุ่ม ๙ พัฒนา ได้ลงพื้นที่ดูแลทุกข์สุขพี่
น้องประชาชนในเขต ซึ่งได้ทำอยู่เป็นประจำต่อเนื่อง ออกเยี่ยมผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส โดยได้ปรับเปลี่ยนมาเป็นเยี่ยมผู้ป่วย และ
ผู้ที่กักตัวจากโควิด 19 โดยมอบถุงยังชีพและสิ่งของจำเป็น อาท ข้าวสาร อาหารแห้ง รวมถึงยาที่จำเป็นในการกักตัวของผู้ป่วยจากเชื้อโควิด 19
และคนในครอบครัว เป็นการดูแลช่วยเหลือกันเบื้องต้น ด้วยความห่วงใย ใส่ใจในชีวิต และความเป็นอยู่ “ทั้งนี้กลุ่ม ๙ พัฒนาได้ออกเยี่ยมในชุมชนทรายมูล, ชุมชนน้ำงาม และชุมชนห้วยโจ้ ภายใคำขวัญที่ว่า ใครไม่ดูแล เรา ๙ พัฒนา ขอดูแลเอง ซึ่งเราไม่เคยทิ้งกัน พร้อมดูแลประชาชนในพื้นที่อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม” จ.ส.อ.ประนม ตัวแทนกลุ่มกล่าวปิดท้าย
Discussion about this post