
เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 ร.ต.อ. อนันต์ พาณิชกุญ รองสว.สอบสวน สภ.ทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเหตุ มีคนนอนเสียชีวิตในบ้านพัก จึงลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมด้วยมูลนิธิกู้ภัยใต้เต็กตึ้ง อำเภอทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช ถึงที่เกิดเหตุเป็นบ้านเช่าั้นเดียว บ้านเลขที่ 57 หมู่ 2 ตำบลท่ายาง อำเภอทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นผู้หญิง สภาพนอนหงายห่มผ้า มือทั้งสองข้างแนบลำตัวคล้ายคนนอนหลับธรรมดา คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่เกิน 2 ชั่วโมง มีอาหารและนมวางอยู่ข้างที่นอน ซึ่งเป็นของที่เพื่อนบ้านเอามาเยี่ยม ทราบชื่อผู้เสียชีวิตชื่อนางมีมี่ ( Mee Mee ) เป็นชาวเมียนมาร์ อายุ 44 ปี ที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยเกือบสิบปีแล้ว มาพร้อมกับสามีและเพื่อนร่วมงานซึ่งเป็นชาวเมียนมาร์ เข้ามาประกอบอาชีพคนงานก่อสร้าง เพื่อหารายได้ส่งเสียครอบครัวที่อยู่เมียนมาร์
สอบถามนายออง จอ ตู หรือนายวัน เป็นชาวเมียนมาร์ อายุ 40 ปี เล่าว่า ตนเป็นเพื่อนของสามีนางมีมี่ผู้เสียชีวิต ซึ่งสามีผู้เสียชีวิตออกไปทำงานแบกไม้ยางที่จังหวัดกระบี่ตั้งแต่ตอนเช้า จนเวลาประมาณเที่ยง ตนกำลังกินข้าวอยู่ สามีผู้เสียชีวิตโทรมาบอกว่าให้ไปดูภรรยาให้หน่อย เพราะโทรไปไม่รับสาย หลังกินข้าวเสร็จ ตนจึงเดินไปดูที่บ้านพักซึ่งอยู่ติดกัน เมื่อไปถึงเห็นประตูบ้านเปิดอยู่ ตนจึงเรียกผู้เสียชีวิตแต่ไม่มีการตอบรับ เมื่อเดินเข้าไปดูเห็นผู้เสียชีวิตนอนแน่นิ่ง ตนจึงรีบวิ่งไปบอกยายข้างบ้านให้มาช่วยดู ปรากฏว่าเสียชีวิตแล้ว จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้าช่วยเหลือ
นายวัน เล่าต่ออีกว่า เมื่อคืนนี้เวลาประมาณเที่ยงคืน ตนและเพื่อนได้พานางมีมี่ไปหาหมอที่โรงพยาบาลทุ่งใหญ่เพราะมีอาการปวดเมื่อยตามตัว บวกกับมีไข้ หมอบอกว่าเป็นไข้ธรรมดา จึงให้ยากลับมากินที่บ้าน แต่ถ้าอาการไม่ดีขึ้นหมอแนะนำให้ไปโรงพยาบาลทุ่งสง ซึ่งเป็นโรงพยาบาลในตัวเมือง แต่ไม่ทันได้ไป นางมีมี่กลับมาเสียชีวิตซะก่อน โดยก่อนหน้านี้นางมีมี่ป่วยเป็นโรงมะเร็ง รักษาตัวที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ มาสักระยะแล้ว ก่อนอาการจะทรุดหนักจนไม่สามารถทำงานได้

ซึ่งครอบครัวของนางมีมี่ผู้เสียชีวิตไม่มีแม้เงินจัดงานศพ นายวันเปิดกระเป๋าเงินของนางมีมี่ให้ผู้สื่อข่าวดู ปรากฏว่าทั้งครอบครัวมีเงินอยู่แค่ 120 บาท ไม่มีเงินเก็บเพราะต้องเอาเงินไปรักษาตัวจนหมด ซึ่งนางมีมี่ไม่ได้กลับประเทศมาหลายปีแล้ว โดยนางมีมี่และสามีจะทำงานเพื่อส่งเงินให้ลูกชายที่อยู่เมียนมาร์ การเสียชีวิตในต่างแดนไม่มีแม้เงินพาศพกลับบ้านเกิด ไม่มีญาติพี่น้องร่วมงานศพ เป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจมาก ซึ่งพาสปอร์ตของนางมีมี่พึ่งหมดอายุไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่ยังไม่ทันได้ต่ออายุ กลับต้องมาจากโลกนี้ไปเสียก่อน
เพื่อนบ้านที่เป็นคนไทยถึงกับร้องไห้กับเหตุการณ์ครั้งนี้ เผยว่า ผู้เสียชีวิตเป็นคนดี ขยัน มีความอ่อนน้อมถ่อมตน ทำให้คนในระแวกรักใคร่เอ็นดู จนนำน้ำนำขนมมาเยี่ยมอยู่เสมอ เรื่องราวที่เกิดขึ้นสร้างความเศร้าใจแก่เพื่อนบ้านเป็นอย่างมาก ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกระทันหัน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้เข้ามาตรวจหาเชื้อโควิด 19 จากผู้เสียชีวิต ปรากฏไม่พบเชื้อ จึงส่งต่อให้ญาตินำร่างไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา มูลนิธิใต้เต็กตึ้ง อำเภอทุ่งใหญ่ และทีมข่าวได้ระดมทุนเพื่อช่วยเหลือในการจัดงานศพ โดยต้องนำศพไปจัดที่วัดภูเขาลำทัง ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านประมาณ 10 กิโลเมตร หากผู้ใดต้องการจะช่วยเหลือ สามารถร่วมสมทบทุนช่วยเหลือได้ที่มูลนิธิใต้เต็กตึ้ง เพื่อนำเงินไปช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตต่อไป.
Discussion about this post