ปัตตานี – หลังจากทางสำนักจุฬาราช มนตรีได้กำหนดให้ประชาชนชาวไทยมุสลิมร่วมดูดวงจันทร์หลังดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า เพื่อกำหนด วันที่ 1 ของเดือนเซาวาล (เซา-วาล) หรือ วันฮารีรายอ อีฎิ้ลฟิตรี (อี-ดิล-ฟิต-ตรี) ฮิจเราะห์ศักราช 1443 ซึ่งปรากฏว่า มีผู้พบเห็นดวงจันทร์ในห้วงเวลาดังกล่าว ทำให้วันฮารีรายอ อีฎิ้ลฟิตรี ก็จะตรงกับวันจันทร์ ที่ 2 พฤษภาคม 2565
พลโท เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 /ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กำหนดเส้นทาง เยี่ยมชมบรรยากาศทั่วไปของวันฮารีรายอฯ ระหว่างเส้นทาง ยะลา สู่ ปัตตานี พบว่าพี่น้องมุสลิมต่างพากันท่องเที่ยวไปตามสถานที่ต่าง ๆ และจับจ่ายซื้อของกันอย่างคึกคัก มีทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ ชาย หญิง แต่งกายด้วยเสื้อผ้าตามแบบอย่างอิสลาม ตลอดจนมัสยิดหลายแห่ง คลาคลั่งไปด้วยพี่น้องไทยมุสลิมที่มาร่วมละหมาดเนื่องในวันฮารีรายอฯ เช่นกัน โดยส่วนใหญ่แล้วมัสยิด จะประดับประดาไปด้วยป้ายต่างๆ และริ้วธงสีอย่างสวยงาม เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองหลังจากที่มีการถือศีลอดในเดือนรอมฏอนตลอดทั้งเดือนที่ผ่านมา
ขณะที่ริมหาดตะโละกาโปร์ บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึดคัก พ่อค้าแม่ค้าออกมาวางจำหน่ายสินค้ากันอย่างเนืองแน่น ร้านค้า ร้านอาหาร เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว แสดงออกถึงวัฒนธรรมประเพณีของพี่น้องมุสลิมอย่างโดดเด่น เห็นถึงความสุข ความอบอุ่น ที่ครอบครัวได้ร่วมทำกิจกรรมในวันสำคัญทางศาสนา
ส่วนด้านความปลอดภัยนั่น พลโท เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง อำนวยความสะดวกให้แก่พี่น้องประชาชนในการเดินทางใช้รถ ใช้ถนน ควบคู่กับการดูแลพื้นที่ไม่ให้เกิดเหตุรุนแรง รวมถึงยังขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนยังคงยึดมั่นในมาตรการป้องกันตนเองจากโรคไวรัส covid-19 อย่างเคร่งครัด เพื่อให้เป็นวันแห่งความสุข ให้พี่น้องไทยมุสลิมในโอกาสวันฮารีรายอ อีกด้วย.
Discussion about this post